วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Laos Town Story (ตะลอนลาว) ตอน เวียงจันทร์กันเอง

บทที่ 4 รถด่วนขบวนสุดท้าย และเวลาไทยๆ

ตื่นมาแต่เช้า เก็บกระเป๋าพยายามหาเสื้อผ้าที่เบาๆ ไป เพราะกะไว้ตอนขากลับจะได้มีที่เหลือสำหรับของฝาก (เหล้า เบียร์มันหนัก 555+) กางเกงขายาว 1 ตัว ขาสั้น 1 ตัวเสื้อ 4 ตัว และกอกอนอพอสมควร กับกระเป๋ากล้อง แค่นี้พอรถไฟออก 2 ทุ่ม นัดก้อยไว้ที่หัวลำโพง 1 ทุ่มตรง KFC ก่อนหน้านั้น ก็แวะไปหาพี่รัดกะพี่เอ ที่ออฟฟิค(Kardd) ก่อน นั่งรอเวลาคุยเล่นกะพี่เอ ไปเรื่อย พี่เอก็เลยขอ ”ของฝากซะเลย” ที่ชงกาแฟของเวียดนาม…เอออ พี่ฮะ เบิ๊ดไปลาวเพ่ กลัวน้องโง่ พี่เอจัดการปรินท์รูปมาให้ดู…ก่อนไปก็โทรหาพี่ Opal สอบถามแหล่งเที่ยวก็แถวๆ วงเวียนน้ำพุ ที่ผมจะไปพักพอดี

ช่วงนี้ไข้หวัดมันเยอะ เตรียมป้องกันไปด้วยก็ดี(ขอฮา 1 มุก)

พี่เอ...กลัวไม่ได้โปสกาด ส่งมาทางเมล์ SMS และจดให้ด้วย
แถมปรินท์รูปกาแฟเวียดนามอีก


ก้อย..เจ้าของทริปนี้ ดีไม่ดี เด๋วก็รู้ 55+

ได้เวลา มาถึงหัวลำโพงประมาณ ทุ่ม 40 นาที เจอก้อยแล้วไปที่ชานชาลาทันที…รถไฟด่วนปรับอากาศ สาย 69 ชั้น 2 กรุงเทพฯ-หนองคาย รอบ 2 ทุ่มตรง เที่ยวสุดท้าย ราคาตั๋วโดยสารรถไฟเตียงบน 688 บาท-เตียงล่าง 758 บาท ก้อยบนเบิ๊ดล่าง 555+ นั่งบนรถไฟ รู้สึกหิวๆ เลยขอดูเมนูอาหารจากพนักงานหญิง..ดูไปสักพัก อิ่มดีกว่า ราคาแอบแพง 85-100 บาทต่อจานน่ะ (พวกๆ กะเพราหมูสับไข่ดาวแหละฮะ มีพวกเป็นกับข้าวแย่างๆ ด้วย) โชคดีก้อยเอาผัดมาม่ามาให้ แม่ก้อยทำไว้ให้คนล่ะ 1 ถุง..โอ้ว สุดยอด อร่อยมากมาย แก้ปัญหาหิวไปได้เยอะ รถออกจริงๆ ประมาณ 2 ทุ่ม ครึ่ง ช้าไปครึ่งชั่วโมง มาตราฐานรถไฟไทยจริงๆ มานั่งนึกว่าถ้าเป็นเวลาตรงเป๊ะๆ แบญี่ปุ่น ผมว่าคนไทย ตกรถไฟกันเยอะแน่ๆ เพราะบ้านเรารถติดกว่าเราจะมาถึงรถไฟก็ออกไปแล้ว ผมว่าแบบนี้ก็โอเคน่ะครับ ใจเย็นๆ รอคนที่ไม่ทันด้วยดีกว่า …ถ้ารีบคงนั่งอย่างอื่นกันแล้วแหละ เพราะรถไฟไทย ถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง :D

ไม่มีความคิดเห็น: