วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2557

๐๕ ๑๒ ๒๕๕๗


"ทรงพระเจริญ"

วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

5 Anniversary


นับหนึ่ง นับสอง นับสาม นับสี่ นับห้า......หงุดหงิด ห้าขวบแล้ว "หมาปั๊ก หน้าดำ ลูกสาว ที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน" นี่คงเป็นคำอธิบายเมื่อเวลามีคนสงสัยว่า "หงุดหงิด" คือชื่ออะไร คือใคร??

วันที่ 21 เดือน 11 (ในขณะที่เขียนคือวันพรุ่งนี้ที่กำลังจะก้าวไปเป็นวันนี้) เป็นวันเกิดหงุดหงิด วันที่รู้สึกคิดถึงมันมากที่สุด วันที่รู้สึกตื่นเต้นกับความรู้สึกที่ว่าเราจะคิดถึงหงุดหงิดแบบไหน...2 ปีกว่าแล้วมั่งที่ไม่ได้เจอกันอีกเลย ถ้าจำไม่ผิดก็คงเป็นวันเสาร์ วันที่ทำเสื้อยืดลายหงุดหงิดเสร็จ แล้วเอาเงินไปบริจาคคนที่ดูแลหมา วันนั้นเล่นกับมัน กอดมัน คลุกคลีอยู่กับมัน โดยที่ไม่เคยคิดเลยว่าวันนั้นจะเป็นวันสุดท้ายที่จะได้เจอ....สารภาพเลยว่า ถ้ารู้ว่าครั้งนั้นเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เจอกัน ฉันคงจะคุยกับมันให้นานมากกว่านี้ กอดให้มันนานมากกว่านี้ มากกว่าที่เคยทำผ่านๆ มา…แต่เม่งก็ไม่เป็นไม่ได้แล้วแหละที่จะทำแบบนั้น ถึงจะมีคิดเล็กๆ ในเสี้ยวห้วสักนิดเหอะว่าไม่แน่สักวันคงอาจจะได้เจอกัน

ทุกๆ ปี สิ่งที่พอ(น่า)จะทำได้คือ การซื้อขนมหรือไม่ก็ของเล่นแล้วส่งไปให้หงุดหงิดบ้าง พอให้รู้สึกว่าแต่ละปีอย่างน้อยๆ ก็ให้ตัวเองไม่ลืมว่ามีหงุดหงิด มีหมาปั๊ก มีลูกสาวอยู่ 

ทุกวันนี้หมาในซอยบ้านก็ได้อนิสงฆ์จากการที่คิดถึงหงุดหงิดนี่แหละ ที่ทำให้ตัวเองไปซื้ออาหารซื้อขนมให้มันเล่น พอแก้คิดถึงหงุดหงิดไปบ้าง...(ถึงบ้านในซอยบ้านมันจะตัวใหญ่คับซอยก็เหอะ)

การเขียนถึงหงุดหงิดปีนี้ น่าจะมีเรื่องหงุดหงิดน้อยลง และเป็นเรื่องอ้อมๆ ที่เหมือนจะเกี่ยวข้องกับหงุดหงิดน่ะ แต่เขียนไปเขียนมาก็รู้สึกว่ามันไม่น่าจะเกี่ยวกันได้เลย

"หงุดหงิด…ฉันรักแกว่ะ และคิดถึงแกมากๆ ทุกๆ ครั้งที่เวลาเดินทางไปไหนก็แล้วแต่ เวลาเจอหมาก็จะหันมองตลอด แล้วถ้าวันไหนโชคดีได้เจอหมาปั๊กพันธ์เดียวกับแกด้วยน่ะ รู้ไหมฉันโคตรคิดถึงแกเลยคิดถึงมากๆ ด้วยรู้ไหม นึกทุกครั้งว่าป่านนี้มันจะโตขนาดไหนแล้ว ป่านนี้มันจะเป็นยังไงบ้าง ลืมเบิ๊ดไปแล้วยัง มันจะยังจำได้ไหมว่าเคยมีเบิ๊ดอยู่" กลัวแกลืมฉันเหลือเกิน ไม่ต่างกับที่ฉันจะลืมแกเลย

หงุดหงิด…ความฝันเล้กๆ ของฉันก็สำเร็จแล้วน่ะ นั่นคือการไปอยู่หน้ารูปปั้นของฮาจิ ที่ญี่ปุ่น ที่เจ๋งกว่านั้นก็คือ ฉันตั้งใจใส่เสื้อยืดลายหน้าแกเลยน่ะ ตอนที่ได้เห็นรูปปั้นนั้นตอนแรกนี่เม่งโคตรมีความสุขเลย คิดถึงแกมาก หมาทุกตัวคือแก เพราะฉนั้นฉันก็คงรักมันทุกตัวเหมือนกันน่ะ

ปีนี้ 5 ขวบแล้ว ว่ากันว่า หมา 5 ขวบ อายุของคนน่าจะประมาณ สามสิบกว่าๆ แหละมั่ง สามสิบยังแจ๋วเลยน่ะหงุดหงิด ขอให้แกมีความสุขมากๆ กินเต็มที่ เล่นเต็มที่ นอนเต็มที่ กรนเต็มที่เลยน่ะสุดท้ายนี้ขอให้แกยังจะจำฉันได้บ้างน่ะ คิดถึงแกว่ะหงุดหงิด "HBD"

วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เริ่มต้น "Begin Again" อีกครั้ง




"Begin Again" เพิ่งได้ดูตะกี้เลย ไม่ได้ในโรงน่ะ แต่เป็นคอมที่บ้าน เข้าใจแหละว่าทำไมคนถึงได้ชอบกันนักกันหนา เพลงเพราะ อารมณ์ได้ นักแสดงเท่ โดยเฉพาะพระเอกเล่นดีโคตร รู้จักพระเอกก็จาก hulk ในอเวนเจอร์นี่แหละ ส่วนเคียร่า นี่แอบกริ๊ดมานานแหละ ตั้งแต่ เลิฟแอคซูรี่..

หนังเม่งชวนยิ้มตลอดเวลา แต่รู้สึกนอยตรงฉากสุดท้ายนี่แหละ ไม่รู้ว่าคนอื่นคิดไงน่ะ แต่ส่วนตัวคิดว่า ในเรื่องนางเอกเม่งปูเพลงของตัวเองมาตลอดไม่ต้องการให้มีอะไรนอกเหนือจากเพลง เช่น การแต่งตัว การใส่อะไรก็แล้วแต่ที่ไม่ใช่ดนตรี เพราะนางเอกอยากให้คนเข้าใจเพลงมากกว่าสิ่งอื่นๆ ที่ไม่ใช่เนื้อหาของเพลงที่นางเอกจะสื่อ

....เพลง lost star เพลงที่นางเอกแต่งให้แฟน เพลงของ "สองเรา" แล้วพอห่างกันไป แฟนก็ได้เอาเพลงนี้ไปใช้ลง CD ……..แต่พอที่นางเอกได้ฟังเพลงแฟนใน CD ตอนแรก ก็ยังบอกกับแฟนมันเลย ว่าอยากให้เล่นเพลงในแบบที่มันเคยเป็น แต่แฟนมันก็ยังดึงดันในแบบของตัวเองว่า แบบนี้ก็มีคนชอบมีคนถูกใจ...ซึ่งนางเอกเฉยๆ มากกับเรื่องนี้ นางเอกสนใจคุณค่าของตัวเพลงมากกว่า เลยทิ้งท้ายว่าขอให้พระเอกเล่นเหมือนเดิม เหมือนที่นางเอกจะสื่อ...ช่วงพีคตอนคอนเสริตนี่แหละ ที่ตอนแรกๆ แฟนนางเอกก็เล่นอารมณ์เดียวกับที่นางเอกต้องการ แต่พอผ่านไปช่วงพีค แฟนมันดันเล่นในแบบที่ตัวเองอัดไว้ใน CD สุดท้ายก็ไม่ต่างอะไร...จากที่นางเอกเม่งจะดีด้วยแล้วแต่กลับกลายเป็นว่า แฟนของนางเอกไม่ได้จะเปลี่ยนไปจากเดิมเลย หรืออาจจะเปลี่ยนตอนแรกๆ (ที่เล่นเพลงเหมือนกับนางเอก) ก่อนที่จะเหมือนเดิม ทำให้นางเอกเดินหนีไป ฉากนี้แหละ เม่งโคตรชอบเลย...คือไม่ต้องจบแบบแฮปปี้หรอกน่ะ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เศร้าจนน้ำตาไหล ความรู้สึกไม่ต่างอะไรกับที่ดู ONCE เลย ประทับใจอะไรใน ONCE ก็ประทับ Begin Again เหมือนกันนี่แหละ แต่ตามสูตรของตัวเองคิดว่าให้ ONCE ชนะคะแนนไปน่ะ เพราะความรู้สึกที่ว่า ONCE คือต้นฉบับ...ONCE คือการจากกัน เพิ่มไปเริ่มต้นสิ่งที่ในใจอยากให้เกิดมากกว่า

ปล. นี่เป็นเรื่องที่สองต่อจาก Little Miss Sunshine ที่พอดูจบ ก็เปิดบล็อคเขียนเลยน่ะเนี่ย
ปล 2 ชอบฉากที่ฟังเพลงด้วยกันแล้วเดินไปที่ต่างๆ มากๆ (ความรู้สึกเหมือนเรื่อง HER เลย)

วันจันทร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2557

"ความหงุดหงิดไม่เคยหายไป"



วันนี้นั่งเก็บของ รื้อของที่บ้านเพลินๆ เก็บหนังสือ เก็บการ์ตูน เก็บปัดกวาดไปเรื่อยๆ ดันไปเจอรูป "หงุดหงิดตอนเด็ก" ...นั่งดูแล้วก็คิดถึงตอนเก่าๆ ตอนอยู่ด้วยกัน นอนด้วยกัน เล่นด้วยกัน

สักพักก็กลับมานั่งดูรอบๆ ห้อง หมาปั๊ก ทั้งหนังสือ ของเล่น ภาพวาด ที่เป็นหมาปั๊ก เต็มห้องไปหมด พยายาม??? พยายามให้มันเป็นตัวแทนว่านั้นคือหงุดหงิด พยายามไม่เห็น เพราะอยากรู้จริงๆ ว่าบางสิ่งบางอย่างถ้าไม่เห็นเราจะจำได้ไหม

ช่วงแรกอาจจะดีพอไม่ได้เห็นก็จะได้ไม่ต้องรู้สึกคิดมาก..แต่กลับกลายเป็นว่าถ้าได้มาเห็นอีกทีหลังจากที่(พยายาม)จะไม่เห็นสิ่งที่อยากเห็นอีก "หนักกว่าเดิม" ความคิดถึงมันทะลักออกมาจากหัวใจเลย อะไรต่อมิอะไรที่เก็บไว้ มันออกมาเองเหมือนเอาไปเจอกุญแจไขมันออกมา ทั้งๆ ที่มันก็แอบซ่อนรอพร้อมจะปล่อยเต็มที่อยู่แล้ว

คิดถึงหงุดหงิด เกือบสามปีแล้ว สามปีเลยน่ะที่ได้ไม่ได้เจอหน้ากัน เป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม มันจะคิดถึงบ้างหรือเปล่า ลืมแล้วหรือยัง หงุดหงิดจำฉันได้ไหม????

คำถามเม่งวนเวียนอยู่ในหัว อยากระบาย อยากร้องไห้ อยากนอนให้สลบไปเลย อยากตื่นแล้วตื่นมาลืมหมดให้ทุกอย่าง ถึงทำแบบนั้นได้จริงๆ ก็คงไม่คิดที่จะลืมมันหรอก....สมเพศตัวเอง

จะจำหน้ามันไม่ได้อยู่แล้ว หน้าหงุดหงิดคือภาพเก่าๆ ที่ผ่านมา อนาคตของหงุดหงิดเป็นยังไง สารภาพจากใจเลยว่านึกไม่ออกจริงๆ

ภาพเก่าๆ ที่นึกออกคือ "หงุดหงิดเม่งก็ยังคือลูกสาวของฉันอยู่ดี" แต่สิ่งที่น่าจะดีใจได้อยู่อย่างคือภาพเก่าๆ ที่เม่งติดอยู่ในใจ คือภาพที่สดใส มากกว่าภาพที่แย่ๆ เสมอ

วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2557

"29" 29 2014



วันนี้วันที่ 30 เมษายน........

เมื่อวาน (ที่เพิ่งผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง) วันเกิดผม (29)

29 เมษายน วันนี้วันดี....เพราะเลข 29 มีความหมายสองอย่าง
- วันที่ที่เราเกิด
- ตัวเลขของอายุ เอิ่มมม..ม

เชรดเข้ จะสามสิบแล้วอ่ะ!!!!!! (ถึงหน้าจะนำไปไกลก็เหอะ)
ปีนี้มีอะไรบ้าง มีอะไรต่างจากปีที่แล้วไปบ้าง พยายามจะหาข้อเปรียบเทียบ พยายามจะหาความเหมือนหลายๆ อย่างว่าต่างกันหรือเหมือนเดิม จนแล้วจนรอดรู้สึกได้เหมือนเดิมคือ แก่ขึ้น 55555 เท่านั้นเอง

ปีนี้พิเศษหน่อย ของขวัญเยอะกว่าปีที่แล้ว แถมถูกใจทุกชิ้น :P

ไม่มีอะไรจะเขียน ที่เขียนบทความนี้ ตอนนี้ เวลานี้ เพราะอยากจะเขียนช่วงที่เพิ่งผ่านวันเกิดในแต่ล่ะปีๆ ว่าตอนนั้นคิดอะไร เสียอะไรแล้วได้อะไรไปบ้าง 

ขอให้ทุกคนที่เรารู้จัก และคนที่รู้จักเรามีความสุขมากขึ้น ความเศร้าเบาบางลง ขอให้ทุกๆ การตัดสินใจ ในแต่ล่ะเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องเล็กไปถึงเรื่องใหญ่ ขอให้ตัดสินใจไปให้ทางที่ตัวเองอยากให้เกิดอยากให้เป็น

สุดท้ายขอให้ลิเวอร์พูลได้แชมป์ลีกด้วยเถอะครับบบบบ..บ

ปล. ขออยากเจอหงุดหงิดบ้าง คิดถึงอยู่บ่อยๆ รักหมาตัวอื่นๆ เพราะหงุดหงิดแต่ไม่คงเท่าหงุดหงิดน่ะไอ้หมาหน้าดำเอ๋ยยยยยยยย

วันพุธที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2557

ทดไว้ในบล๊อก (14)

- ครั้งสุดท้ายที่ทดไว้ในบล๊อก (13) เดือน 11 ปี 55
- ครั้งนี้ ครั้งที่14 ................ปีเต็มๆ 
- ครั้งนั้นตกงาน ครั้งนี้ เซ็งงาน..........
- องค์กรใหญ่ขึ้น แน่นอน ปัญหาเม่งก็ใหญ่ขึ้นตามมา
- ช่วงนี้อยู่วาระเติมเงินในบัญชี
- อยากเที่ยวต่างประเทศ
- หลายๆ สิ่ง หลายๆ อย่างเปลี่ยนไป
- หมาในซอยเพิ่มมากขึ้น ไฟถนนแถวบ้านสว่างจ้ากว่าเดิม
- อายุเพิ่มขึ้นพร้อมๆ พุง 
- ดูหนังในโรงน้อยลง ดู DVD มากขึ้น
- ซื้อหนังสือน้อยลง แต่อ่านหนังสือแจกฟรีมากขึ้น
- เป็นครั้งแรกของบ้านที่ติดเคเบิลทีวีสำหรับดูบอลโดยเฉพาะ (น้ำตาจิไหล)
- แน่นอน เสาร์อาทิตย์ ถ้าไม่จำเป็นไม่เคยคิดออกไปไหนเลย
- ถ้าออกไป "ตลาดมืด" คงเป็นสิ่งที่ pop ที่สุดในขีวิตแหละ
- หลานสาวเพิ่งสามขวบ
- จากที่รำคายเด็ก ตอนนี้พอมีหลานใกล้ตัว เริ่มรำคาญน้อยลง
- ส่วน "หงุดหงิด" ยังคิดถึงเหมือนเดิม
- หลานโตมากขึ้นเท่าไร ความไกลจากหงุดหงิดก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
- คิดอยู่ตลอดว่าตัวเองโชคดีมาก ที่คนใกล้ตัวเราเป็นคนที่เข้าในเรามากที่สุด 
- ไม่ว่าช่วงเวลาไหนก็ตาม
- ก็ยังไม่คิดจะซื้อ สมาร์ทโฟนอยู่ดี 
- มีแต่คนถาม line ไม่อายที่จะบอกว่าไม่มี 
- แต่มันเคืองที่เค้าแปลกใจบอกว่า "ยังมีคนที่ไม่มี line อีกหรอ"
- ถ้าโทรมายากลำบากนัก ส่งโทรเลขมาก็ได้
- บทความนั้นนี้จะเป็นบทความที่จะทำให้ผมเขียนบล๊อกมากขึ้น
.
.
.
.
.
.
- ว่าแต่บ่นเรื่องอะไรดี??????