"อยากทำหนังว่ะ"
ไม่รู้เกิดอารมณ์นี้ขึ้นมาได้ไง เลยทำให้คิดถึงสมัยเรียน...ย้อนไปไม่นานเท่าไร :P
ตอนนั้นได้ลงเรียนเกี่ยวกับหนัง ระหว่างที่เรียนนั้นก็มีการอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะ เช่นเขียนสตอรี่บอร์ด ถ่ายรูปเป็นช๊อตให้เป็นเรื่องราว(สนุกมากๆ แต่มามีเรื่องเซ็งๆ ขอไม่พูดถึง) ที่มันส์และสนุกก็คือ ฟริบบุ๊ค ที่ประมาณว่าให้เขียนมุมกระดาษแล้วก็เปลี่ยนไปเร็วๆ ให้ภาพเหมือนเคลื่อนไหวอ่ะ (นึกออกกันไหม) แต่เนื่องจากเราวาดไม่สวย เลยเป็นถ่ายรูปเอาแล้วเรื่องนี้ทำให้เพื่อนๆ ฮากันมากๆ เพราะเราทำแซวเรื่องต้มยำกุ้ง ที่ตอนนั้นกำลังเข้าฉายพอดี (เด๋วมีเวลาจะเอามาลงให้ดู) แล้วพอตอนจบรายวิชาอาจารย์ให้ทำ 1 เรื่อง โดยที่ให้เอาเรื่องจากหนังสือ ที่ประทับใจมาทำเป็นหนัง
ซึ่งก็ได้เอาเรื่องสั้น 1 เรื่อง จากหนังสือชื่อว่า"สาวน้อยนักขายขนมปัง" (ซึ่งเนื้อเรื่องไปดูได้จากบทความชื่อว่า "ความบังเอิญ จากแรงบัลดาลใจเดียวกัน" ในบล๊อกผมนี่แหละ
นั้นเป็นเรื่องแรกที่ได้ทำ
เรื่องที่สอง...โคตรจะเท่เพราะทำเกี่ยวกับสารคดี!!!!
ที่มาเป็นไงน่ะหรอ 5555 เริ่ม ตอนจะจบ ที่จะได้ทำทีซิส(งานจบ) อาจารย์ก็ให้ทำงานปรีทีซิล คือ ลองทำก่อนทำงานจบจริงๆ ซึ่งงานปรีทีซิส อาจารย์ให้ทำจับคู่ได้ฮาๆ ไม่ซีเรียส โดยที่ตอนแรกผมก็ทำคนเดียวโดยคิดโครงงานออกแบบงานหัวข้อที่ว่า ประเทษไทยจัดบอลโลก ซึ่งกะว่าเอาโลโก้ สนาม โปสเตอร์ กะเต็มที่มากๆ แต่อาจารย์ไม่ให้ทำ!!!!!!!!! โดยที่บอกเหตุผลแค่ว่า มันเป็นจริงได้ยาก (โดยส่วนตัวคิดว่า เพราะมันไม่เกิดขึ้นจริงไงเลยอยากทำ แบบนี้พอกูจบไปทำงาน จะมีโอกาสทำไหมเนี่ยยยยย)
จากนั้นก็เลยนอยๆ เซ็งๆ พอดีได้ยินมาว่าเพื่อนไผ่(สนิทสนมกันดี)มันจะทำ MV ของวงเพื่อน 1 เพลง(ซึ่งตอนนี้วงนั้นได้เปลี่ยนชื่อแล้วออกซิงเกิ้ลค่ายโซนี่ไปเรียบร้อยแล้ว) เลยไปขอแจมแล้วบอกให้มันเปลี่ยนจากทำ MV มาเป็นหนังสั้นซะเลย 555 (สุดท้าย MV เพลงก็เป็นทีซิสของมัน) ก็ได้ไปคิดเรื่องมาเป็นหนังตลกร้าย ดาร์กคอมเมดี้มากๆ
...จุดเปลี่ยนอีกทีคือก่อนหน้านั้น มีโอกาสไปดูหนังเรื่องเด็กโต๋ที่สกาลา..แล้วเป็นไง อินซิครับบอกเพื่อนเลยว่ากูเปลี่ยนใจ กูจะทำสารคดี 5555 (เอาแต่ใจสุดๆ นี่ขอเค้าทำด้วยน่ะ) ก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการศึกษา ประมาณเปรียบเทียบกันที่ว่า คนที่ไม่เรียนหนังสือ สามารถ ประสบความสำเร็จเหมือนกับคนที่เรียนได้หรือไม่
โดยที่เนื้อหาเป็นเชิงเปรียบเทียบ และสัมภาษณืคนที่ขอจากเรียนแล้กำลังทำความฝันให้เป็นจริง(ซึ่งก็คือไอ้จิ๊บจากวงดนตรีที่บอกไว้ข้างต้น...อ้อตอนนี้กลัมาเรียนจนจบแล้วน่ะ 555)
ซึ่งวันที่พรีเซนต์งานนั้นเป็นวันที่ทุกคนคณะ ย้ำทุกคนจริงๆ มารอดู เพราะเป็นเรื่องเดียวในการทำทีสตครั้งนี้ แลักุศลจากเรื่องแรกที่ทำออกมาโ-ตรจะดี 55
บทสรุปเรื่องนี้เป็นไงน่ะหรอ...ไม่พูดถึงน่ะ พอประเด็นที่อยากพูดคือที่มาที่ไปในการทำหนังมากว่า
โคตรสนุกเลยครับ
ซึ่งเรื่องต่อไปที่จะทำคงเป็นพรีเซนเตชั่นงานแต่งของผมแล้วแหละ พอกันทีพวกรูปๆ ตอนเด็กตอนโต ตอนคบกันของเจ้าบ่าวเจ้าสาวอ่ะ เบื่อแล้ว เชยแล้ว
เด๋วรอดูของผม ^^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น