วันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

This is a not love story : "น้ำแข็งก้อนนั้น"

จัดต่อกันไปน่ะ

เรื่องสอง : น้ำแข็งก้อนนั้น

ในตอนหนึ่งของหนังสือเรื่อง "ฝันเอียงๆ " ของศุ บุญเลี้ยง
เขียนเอาไว้ว่า
"ความรักคงเปรียบเหมือนน้ำแข็งก้นแก้ว ก้อนเล็กที่อยากได้ มักหล่นไปอยู่ตามซอกหลืบของน้ำแข็งก้อนใหญ่กว่าจะใช้หลอดตวัดขึ้นมาได้ มันก็หล่นลงไปอยู่ในซอกหลืบไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง"
สำหรับฉัน น้ำแข็งก้อนเล็กๆ ก้อนนั้นคงละลายกลายเป็นน้ำ ระเหยเป็นไอ ปะปนอยู่ในอากาศของความรู้สึกไปหมดแล้ว
ระหว่างที่น้ำแข็งก้อนเล็กๆ ก้อนนั้นหล่นลงไปอยู่ในซอกหลืบน้ำแข็งก้อนใหญ่
อยากจะรู้นักว่ามันรู้สึกเหมือนใจที่หล่นวูบเหมือนฉันไหม
และระหว่างที่มันละลายกลายเป็นน้ำ มันค่อยๆ ละลายแล้วรู้สึกอุ่นที่เบ้าตาเหมือนฉันหรือไม่
แล้วตอนที่มันระเหยกลายเป็นไอ มันจะรู้สึกเหมือนไม่มีตัวตนปะปนอยู่ในอากาศหรือเปล่านะ
เค้าบอกว่าสสารไม่มีวันสูญหายไปจากโลก
ชักอยากจะรู้ว่า ความรู้สึกมันเป็นสสารหรือเปล่า? . . . มันจะสูญหายไปได้ไหม
ท่ามกลางอากาศของความรู้สึก มีความรู้สึกดีดีปะปนอยู่มาก
แต่แล้วทำไมคนเราจึงเลือกที่จะหยิบยื่นความรู้สึกไม่ดีที่มีเพียงส่วนน้อยมาทำร้ายจิตใจกัน
ในความไม่แน่ใจของฉัน มันมีความหนักแน่นของเธอระบายซ่อนอยู่ในนั้น
ยืนยันหนักแน่นว่า . . . มันไม่เคยมี . . .
ช่างเยือกเย็น หนักแน่น . . . ราวกับน้ำแข็งก้อนใหญ่ที่มันขวางกั้นความรู้สึกของน้ำแข็งก้อนเล็กๆ เอาไว้
ในขณะนั้นหากฉันเป็นเพียงน้ำแข็งเล็กๆ ก้อนนั้น ฉันคงอยากละลายแล้วระเหยหายไปให้เร็วที่สุด
แต่มันเศร้าตรงที่ว่า ฉัีนเป็นเพียงหญิงสาวที่มีก้อนหัวใจ ไม่ใช่ก้อนน้ำแข็ง
จึงหลีกเลี่ยงที่จะหน้าชา ใจหล่นวูบ และมีน้ำตารึ้นที่เบ้าตาไม่ได้จริงๆ
ถ้าเลือกได้ ฉันไม่แน่ใจว่า ฉันยังจะถามประโยคนั้นออกไปอยู่อีกหรือเปล่า?
. . .
คิดก็ยังไม่เคย ไม่เคยคิดเลย ถามออกไปก็เชยอย่างเคยรู้่กัน . . .

. . . บทเพลง ไม่คิดถาม ของเฉลียงดังขึ้น
ตอนนี้ฉันชักอยากเปลี่ยนคำถามเป็นประโยคสุดท้ายของเพลงนี้ที่ร้องเอาไว้ว่า
"เคยคิดเคยรังเกียจฉันหรือเปล่า???"

........................

ก็ไม่รู้ว่าจะชอบหรือว่าตรงใจหรือเปล่าน่ะ แต่เชื่อว่าเมื่ออ่านแล้วน่าจะคิดได้ไรบ้างน่ะ

ปล. พี่โอปอลล์ ฝากคำมาให้ 2 คำน่ะ

"เลิกวันนี้ ฉลาดวันหน้า"
"อย่าเอาหัวใจไปผูกกับส้นตีนใคร"

จบดีชะมัด

ไม่มีความคิดเห็น: