วันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2555

เมื่อวันเกิดฉันเวียนมาถึงอีกปี....ปี 2555



เหลือบดูนาฬิกา....โอ้วตีหนึ่งกว่าๆ แล้วหรอว่ะเนี่ย พอดีเลยวันนี้วันเกิดเรานี่หว่า :P เฮ้อ 27 แล้วใช่ไหม (แก่ว่ะ) จิงๆ ก็ขอเรียกเป็นวันคล้ายวันเกิดให้ดูเท่ๆ มีนัยยะสำคัญเหมือนคนดังๆ เคยบอกๆ แบบนี้บ้างก็ดีน่ะ อย่างแรกเลยขอบคุณพ่อกับแม่ที่ให้กำเนิดเบิ๊ดออกมาและยังเลี้ยงจนเติบอ้วนขนาดนี้ ^^ ขอบคุณฮะ ก็เด๋วเราไปกินไรอร่อยๆ กันเหมือนเดิมเนอะ ^^

จำได้เลยว่าวันนี้ของปีที่แล้วมันเป็นยังไง เรื่องราวมันยังจำได้แม่นเหมือนมันเพิ่งเกิดกับตัวไม่นานมานี่เอง วันนั้นพอพ้นเที่ยงคืนทุกๆ วันเกิดผมจะโทรไปหาเพื่อนอีกคนหนึ่งและอวยพรให้เพราะเราเกิดวันเดียว ก็โทรไปบอกตั้งแต่ช่วงมัธยมเลยมั่งถ้าจำไม่เผียดน่ะ วันนั้นเบิ๊ดก็อยู่กับก้อยเป็นปกติ ซึ่งปกติแล้ววันเกิดเราทั้งคู่จะเฉยๆ ไม่มีไรมากก็จะกินข้าวจัดหนักบ้างหรือมีของขวัญบ้างเล็กน้อย (ปีแรกเลยจำได้ว่าเป็นรองเท้า converse สีฟ้าเข้มๆ มาหนึ่งคู่) แต่จำได้พอหลังเที่ยงคืนก้อยก็พูด "เบิ๊ดเดย์" กันปกติแล้วก็นอนเพราะพรุ่งนี้เป็นวันทำงานปกติ แต่หลังจากนั้นพอทำงานเสร็จกลับมาเจอกันซึ่งเราตั้งใจเลิกเร็วมากๆ รีบจัดการงานให้เสร็จและรีบกลับมาเพราะตั้งใจไปกินข้าวกันเหมือนทุกๆ ปี ก็พอเลิกงานก็เลยรีบโทรหาก้อย เลยก้อยก็บอกประมาณว่างานยุ่งๆ ก็ไม่มีไร เลยกลับมาบ้านเตรียมรอก้อยกลับมาจากออฟฟิคแล้วไปกินไรกัน........นานไปสักพัก ก้อยก็กลับมาเรียกให้เบิ๊ดประตู

ก้อยกลับมาบ้านพร้อมถือพายบลูเบอร์รี่ชีสเค้กมาให้จานใหญ่เลย ปักเทียนสวยงามเซอร์ไพร์มากๆ แล้วบอกว่าก้อยเป็นคนทำเองแล้วแม่ก้อยก็ยังมาช่วยก้อยทำด้วย ปกติเป็นคนที่ไม่ชอบกินเค้กหรือขนมไรแบบนี้น่ะ แต่บอกตามตรงวันนั้นดีใจมากแค่ก้อยซื้อมาให้ก็ดีใจสุดๆ แล้ว แต่นี่ก้อยอ้างว่างานยุ่งแต่จิงๆ แล้วกำลังเตรียมพายมาให้เราแบบนี้ น้ำตาจะไหลให้ได้ดีใจมากๆ แถมอร่อยมากๆ ด้วยกินไปเยอะมากๆ แล้วยังจำได้เลยว่ายังถ่ายรูปก่อนกินเก็บไว้อวดเพื่อนๆ ที่ออฟฟิคแล้วก็เก็บไว้ส่วนหนึ่งให้รุ่นพี่ด้วยเพราะเค้าก็เกิดถัดไปต่อจากเราอีกวัน..........

และก้อยจะบอกอีกว่า นี่ไม่ใด้ชื่อพายบลูเบอร์รี่ชีสเค้กน่ะ แต่เป็น พาย"บลูเบิ๊ดดี้ชีสเค้ก"

วันนี้รสชาติของพายเมื่อปีที่แล้วเป็นอะไรที่จำไม่ได้แล้ว แต่รสชาติของความรู้สึกวันนั้นยังจำได้ดีอยู่เท่าที่สมองเล็กๆ ของผมจะสามารถจดจำได้

ปีนี้อายุ 27 แล้ว ก่อนที่มาถึงวันนี้ 29 เมษายน วันเกิดเรา ก็เจอเรื่องร้ายๆ บ้าง ดีๆ บ้าง มาเยอะแยะพอสมควร ปีนี้ไม่มีพายให้กินแม้กระทั่งคนที่ทำให้เรา คนที่บอกเบิ๊ดเดย์ข้างๆ เรา ก็ไม่มีอีกต่อไปแล้ว มันไม่เหมือนเดิมแล้ว...ตอนนี้เราโตขึ้นอีกปีสิ่งที่เราทำได้ก็คือการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แต่คำอวยพรที่อยากได้ปีนี้ก็คงจะขอให้ตัวเองเอาความผิดพลาดจากปีที่แล้วที่เราทำให้คนที่รักที่สุดคนหนึ่งต้องเจ็บและเสียใจมาทำให้เป็นบทเรียนที่มีค่ามากๆ สำหรับตัวเราและขอให้คำจุดแก้ไขจุดตรงนั้นเพื่อสำหรับวันข้างหน้าต่อไป....ซึ่งไม่ใช่เผื่อคนเก่าหรือคนใหม่แต่เป็นเพื่อตัวผมเองทั้งนั้น

วันนี้ตอนนี้ตีสองครึ่งแล้ว ทั้งๆ ที่บทความของอันนี้ก็ไม่ได้เยอะอะไรมากมายแต่การที่กว่าจะพิมพ์ได้ กว่าจะเรียบเรียงได้มันนานกว่าทุกๆ นั้นจริงๆ 

วันเกิดปีนี้ขอให้มีความสุขตลอดปี มีปัญหาอะไรก็ขอให้ยังมีสติแก้ไขปัญหา ขอให้สิ่งที่เรากระทำทุกอย่างทั้งกาย วาจา ใจ ส่งผลกระทบต่อคนอื่นๆ ให้มีความสุขเหมือนกับเราด้วย

ไม่มีความคิดเห็น: