วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Laos Town Story (ตะลอนลาว) ตอน เวียงจันทร์กันเอง

บทที่ 2 อยากลาว


เวลาผ่านไปช่วงนี้เบิ๊ดกะก้อยคุยกันอยู่เรื่องเดียว "ลาว" ไม่ซิต้องบอกว่า ก้อยจะคุยแค่เรื่องเดียว5555..............
Concept ในการเดินทางครั้งนี้คือ "อยากลาว" แบบว่าไปครั้งนี้เราไม่ได้ไปเที่ยวตามที่สำคัญๆ ของลาว หรือวัดสวยงามต่างๆ ของลาว แต่เราจะไปกันแค่ตัวเมืองหลวงคือเวียงจันทร์ เพราะเหตุผลหลายๆ อย่างเช่นเวลาในการเดินทาง และความสนใจของเราที่มีต่อลาว เราอยากไปดูเมืองที่อยู่ที่กินที่เที่ยวมากกว่า
เวียงจันทร์ ที่สนใจเพราะเป็นเมืองหลวงของลาว และใกล้กับชายแดนของไทย แน่นอนทำให้การเดินทางง่ายขี้น การไปเที่ยวครั้งเป็นเป็นการไปเที่ยวแบบใช้ชีวิตดังเป็นคนลาวของที่นั่นเลย นำปมด้อย มาเป็น ปมเด่น (ตอนเด็กๆ มีแต่คนพูดว่าไอ้ลาวๆ หรือไม่ก็ลาวว่ะ...โตแล้วยังโดนอยู่) ประมาณว่าวัยรุ่นลาวกินยังไง เที่ยวยังไง ทำอะไร เราก็ยังงั้นเลยเหมือนกัน
การเดินทาง แน่นอนถ้าพูดถึงการเดินทางต้องคิดถึงรถไฟ แน่นอน ที่คิดไว้เลย คือรถไฟตู้นอนชั้นสองราคาที่รวมแล้วก็ประมาณ 1,516 บาท ที่ราคานี้เพราะไม่เท่ากันตรงที่เราซื้อสองแบบ แบบนอนล่างกะนอนข้างบน (แบบล่างแพงและสบายกว่าข้างบน) เพราะต้องการให้อยู่ที่โต๊ะเดียวกันเลย เพราะถ้าเอาแบบล่าง สองที่จะทำให้ไปได้นั่งโต๊ะเดียวกันในตอนเช้า (สำหรับคนที่ไม่เคยไปรถไฟ ที่นั่งๆ หนึ่งจะมีสองคนสำหรับคนที่นอนบนกะล่าง ถ้ามาแบบนอนล่างสองคนเลย เราจะแยกกันนั่ง) ซึ่งรถไฟจะออกประมาณ 2 ทุ่ม เที่ยวสุดท้ายของแต่ล่ะวัน ไปถึงก็ประมาณ แปดโมงเช้าเผื่อช้าก็สิบโมงเช้า ซึ่งเมื่อพอไปลงสถานนีหนองคาย ก็จะต่อรถไฟชั้นสามปกติไปที่สถานนีประตูชัยของลาว ซึ่งเป็นไฮไลท์ครั้งนี้เพราะเราจะได้ขึ้นรถไฟข้ามแม่น้ำโขงที่ ไทยกับลาวเพิ่งสร้างเสร็จ!!!!!ส่วนขากลับที่คิดไว้แต่แรกเลยคงกลับโดยรถทัวร์ เพราะจะได้ไม่เหนื่อยมาก และใช้เวลาเร็วกว่าขามาแน่นอน......โชคดีๆ ที่ตอนที่เรากำลังจะไปเครื่องบินมีโปรโมชั่นพอดี แต่ถ้ากลับเครื่องบิน เราจะต้องนั่งรถทัวร์จากเวียงจันทร์ไปจังหวัดอุดร ราคาประมาณร้อยกว่าบาท ซึ่งก็หักลบกันแลัวถือว่ากลับเครื่องบินเหมาะสมที่สุดเพราะจะทำใ้ห้ในวันกลับมีเวลาอยู่เวียงจันทร์นานขึ้นไม่ต้องรีบ...หวังว่าการขึ้นเครื่องบินครั้งแรกในชีวิตของเบิ๊ดกับการนั่งรถไฟครั้งแรกของก้อย จะพาไปลาวครั้งแรกของทั้งสองคนสนุกกว่าที่คิด

วันพุธที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Laos Town Story (ตะลอนลาว) ตอน เวียงจันทร์กันเอง

บทที่ 1 จุดเริ่มต้น



“ลาว” + “เบิ๊ด” = ไม่ได้เกี่ยวอะไรเลย ทริบนี้บังเอิญจริงๆ ขอย้อนกลับไปตั้งแต่แรกๆ เลยน่ะ เริ่มจากที่ โดยส่วนตัวเป็นคนที่ไปไหนมาไหนใช้มอ’ ไซค์อยู่แล้ว ไม่ว่าจะไปเที่ยวห้าง ทำงาน หรือกินเหล้าก็ตาม จะสังเกตได้จากผม(ที่อยู่บนศีรษะ)ไม่เคยได้เซ็ตหล่อๆ แบบเกาหลีซะที เพราะยังไงๆ ก็ต้องใส่หมวกกันน๊อคอยู่แล้ว ถอดออกมาผมเรียบซะ 555+ แล้วมีอยู่วันหนึ่ง เริ่มจากที่ได้ขี่มอ’ ไซค์จะไปบ้านนนท์จากปิ่นเกล้าไปพระราม 5 และได้ลองขี่ผ่านเส้นถนนราชพฤกษ์ พอขี่ๆ ไปสักพัก ก็รู้สึกอยากขี่มอ’ ไซค์ไปต่างจังหวัดดูบ้าง โดยที่คิดไว้ก็คือจังหวัดอยุธยา เพราะคิดว่ายังไม่ไกลเกินไปนัก ลองไปสักสองวันน่าจะโอเค และที่สำคัญลองขี่ฟี่โน่ด้วยเพราะขี่สบายดีนั่งบิดอย่างเดียวและรถก็ยังใหม่อยู่ด้วยน่าจะสบายใจหน่อย ไม่ต้องกังวลซ่อมกลางทางด้วย

หลังจากนั้นผ่านไประยะนึง.............จนกระทั่งไปเดินจตุจักรกับก้อย :D และได้ไปดูร้านที่ขายนิตยสารเก่าๆ ก็ซื้อ a day เล่มลาวมาเก็บไว้ (ทุกทีก็เป็นคนซื้อ a day อยู่แล้ว แต่เล่มนี้ไม่ได้ซื้อเพราะตอนช่วงนั้นเล่มนี้ขายดีมากกกก ซื้อไม่ทัน) กลับมาบ้าน ก้อยมานั่งอ่าน a day เล่มลาว ก็รู้สึกชอบประทับใจ และที่สำคัญ”อยากไป” และแน่นอนพูดแบบนี้แล้วก็อ่ะน่ะ อยุธยาล่มสลายไปได้เลย 5555+ ทีนี้แหละก้อยก็พูดออกมาว่า “เบิ๊ด เด๋วฉันลองไปดูราคามาหน่อยล่ะกันเนอะ” “เนอะก็เนอะ” ผมได้แต่ยิ้ม

เรื่องจริงผ่านจอ!!!!!

วันนี้ตอนเช้า มีเบอร์โทรศัพท์แปลกๆ โทรมา...021209999 เป็นเบอร์อัตโนมัติ ได้ฟังคร่าวๆ ว่าจากกรมสรรพากรเป็นเสียงอัตโนมัติ ก็เลยกดไปที่ call center เขาก็บอกว่าเราได้ภาษีย้อนหลังประมาณ หมื่นกว่าๆ จากการส่งภาษีในช่วงปี 2549-2551 เวลา 2 ปี ใจแว่บแรกคิดเลยว่า มัจฉาชีพ เอ๊ย! มิจฉาชีพ แน่นอน (ยังจะตลก) ก็เลยเฉยๆ ลองฟังดู(ปกติเป็นคนชอบแบบนี้ 55+) เขาก็ให้บอกชื่อ ทำตามเขาเลย บอกเลขบัญชี ไอ้เราก็จำไม่ได้ เค้าก็บอกให้ บอกเลข 16 หลักของบัตร ATM ก็ให้ไป(ที่ให้ไปเพราะอยากรู้แหละ เงินในบัตรก็มีตั้ง 46 บาทถ้วน) เขาก็บอกว่า ได้เช็คมาแล้ววันนี้วันสุดท้ายที่จะรับเช็ค ไม่งั้นจะอายัต....แหม วันสุดท้ายพอดี ผมเลยบอกว่าเด๋วจะไปเอาเองที่สรรพากร เค้าบอกว่า"เด๋วโอนไปที่บัญชีจะง่ายกว่าไหมค่ะ" ก็เลยบอกไปว่าอีก 5 นาทีโทรมาได้ป่ะ เด๋วไปรอที่ ATM ต่อจากนั้นเค้าก็โทรมาบอกว่าจะเสียค่าโอน 100 กว่าบาท ...อ้าวในบัญชีมีอยู่ 46 บาทเอง เค้าเลยบอกว่าให้เขาบัญชีอื่นๆ ก็ได้ แล้ววางไป ผมเลยลองใส่เงินไป 200 บาทเป็น 246 บาท แล้วสักพักโทรมาอีกที เค้าบอกให้เอาบัญชีอื่นมา เราก็บอกไปว่าใส่เงินพอสำหรับโอนไปแล้ว ไม่รู้เค้าโมโหอะไร อยู่ดีๆ เสียงก็เปลี่ยน จากหน้ามือเป็นหลังตีน ว่าทำไมบอกให้ไปใช้บัญชีอื่นทำไมไม่ใช้ล่ะ เราก็บอกไปว่าก็มีเท่าดีก็ใช้ได้ไม่ใช่หรอ มันก็เงียบ ทีนี้ตาเรา....เราก็พูดไปเป็นชุดเลยว่า 200 มึงไม่อยากได้หรอ ไม่พอแดกใช่ไหม แล้วก็ด่าๆๆๆๆๆ มันก็(ได้ยินเสียง แบบว่าเอออ่า) แล้วก็วางหูไป

จะบอกว่าก่อนที่ผมจะใส่เงินไปนั้น ผมได้ลองโทรไปถามกรมสรรพากรแล้ว ทางสรรพากรบอกว่าไม่มีการโอนทางตู้เอทีเอ็มแน่นอน เพราะงั้นที่ผมเล่ามามันคือพวกมิจฉาชีพ เลยเอาเรื่องนี้มาฝากเพื่อนๆ กัน ให้มีสติดีๆ อย่าละโมบ ทำอะไรก็ปรึกษาหรือโทรไปหาพวกกรมแบบนี้เลยฮะ

หากมีข้อสงสัยโปรดติดต่อ สรรพากร Call Center หมายเลขโทรศัพท์ 0 2272 8000 เค้าจะบอกเราเลยว่าเราจะได้คืนยังไง แบบไหนดี......

วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เนื่องในวันภาษาไทย (29/07/2552)

ขอเขียนถึงวันนี้หน่อยอ่ะ วันนี้วันพาสาไท ของเราก็อยากหั้ยทุกคนหันมาใช้พาสาไท ช่ายแล้นเคอะ เพราะพาสาไทเป็นของชาดไท ดังนั้นเราจังจะรักษาไว้และใช้หั้ยมันถูกต้องอ่ะ อย่าหั้ยเวลาพ้นผ่านนานเนินปายจนพาสาทัยหรือพาสาชาดเราหายสาบ0ไปน่ะ กลัวแทนบันพะบุรุดเรา อีกหน่อยจะไม่มีพาสาทัยหั้ยใช้กานเพราะยังงั้นเราทำหั้ยทำถูกต้องกานนนนนน่ะคับ

ผิดตงหนัยวานเทอ เทอ และเทอ บอกเราทีเน้อ
รักน่ะ ซุปซุป

Departures ........ความตาย ความงาม ชั่วนิรันดร์



ได้ไปดูหนังเรื่อง Departures มา...ตอนแรกที่ดูไม่รู้เลยว่าเกี่ยวอะไร เพิ่งจะได้อ่านเรื่องย่อตอนดูจบแล้ว
ลองอ่านเรื่องย่อดูน่ะครับ
Departures เล่าถึง ไดโกะ โคบายาชิ นักเชลโล่ผู้ตัดสินใจวางมือ(ตกงาน) และเดินทางกลับบ้านเกิดพร้อมภรรยา เขาหางานใหม่จากหน้าโฆษณานสพ. โดยเข้าใจว่ามันเป้นบริษัทท่องเที่ยว แต่ไปๆ มาๆ งานที่เข้าได้กลับเป็น 'ผู้ช่วยสัปเหร่อ' ซะงั้น! มาถึงตรงก็คิดน่าดูแล้วใช่ไหมฮะ แต่เมื่อ ไดโกะ ได้ทำงานนี้ไปเรื่อยๆ เขากลับได้รู้สึกภูมิใจในงานที่ทำ แต่ปัญหาคือภรรยาและคนรอบข้างของเขารู้สึกรังเกียจอาชีพที่ว่า...
ตัวอย่างหนังครับ



ในตอนแรกที่ดูเลยคิดว่าเป็นหนังแนวดราม่าแน่ๆ เรื่องย่อมาซะขนาดนี้แล้ว แถมเรื่องนี้...มีคนตายตลอดทั้งเรื่อง แต่ก็อ่ะน่ะ ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงชอบเรื่องนี้จัง(ว่ะ)

วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

นิทรรศการ “ฉันเป็นนักออกแบบกราฟิกไทย”


เตรียมพบกับนิทรรศการ “ฉันเป็นนักออกแบบกราฟิกไทย” เดือนตุลาคมนี้ ณ แกรนด์ฮอล์ สยามดิสคัพเวอรี่ โดยจะจัดแสดงผลงานทุกชิ้น* พร้อมกิจกรรมทางวิชาชีพ เสวนา ตลอดการจัดงานกว่า 10 วันคอยติดตามรายละเอียดของงานผ่านเว็บไซต์ เพื่อให้ไม่พลาดการเป็นเจ้าของหนังสือรวมผลงาน(ทุกชิ้น*) ที่จะแจกในกิจกรรมของนิทรรศการทั้งนี้ด้วยการสนับสนุนจาก ASAHI / Siam Discovery / Antalis (Thailand)

*ผลงานทุกชิ้น หมายถึง ผลงานทุกชิ้นที่ถูกแสดงในเว็บไซต์ภายในวันที่ 10 ก.ย. 2552(ยังมีเวลาครับ สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ส่งผลงานเข้าร่วมโครงการฯ)

เด๋วไปถ่ายรูปมาให้ดูน่ะ อิอิอิ

สำหรับรูปและเนื้อหา...เอามาจากเวบ http://thaigraphicdesigner.wordpress.com/ ขอบคุณครับ

ฝุ่น บวก เหงื่อ....เท่ากับ

วันพฤหัส ที่ผ่านมา ได้ไปเซตฉากถ่ายรูปเฟอร์นิเจอร์กะพี่ไก่ (Kardd) ซึ่งจริงๆ ก็ไปยกของหยิบนู่นหยิบนี่ จัดแสงนู่นนี่ ไม่ได้เป็นคนถ่ายหรอก นั่งรถไฟฟ้าไปลงอ่อนนุช โดยที่ไปขึ้นรถพี่เค้าแล้วไปที่โรงงานเลย ไกลมากกกกกกกกกก เลยสวนสยามไปอีก ไปถึงก็.....ทางเค้ายังเซตฉากไม่เสร็จ สียังไม่แห้ง ต้องรอจนกว่าจะเริ่มถ่ายก็เกือบบ่ายสอง....ที่สำคัญ ฉากนี้เซ็ตกันที่ในโกดังเลยยยย โนแอร์ โนแสงสว่าง ต้องลุ้นไม่ให้ฝนตกด้วยเด๋วยาว กลัวไฟดับอีก โกดังเก็บไม้ มันจึงเต็มไปด้วยฝุ่น+เศษไม้ ยังโชคดีที่ยังถ่ายไม่เยอะ ถ่าย 2 ชุด ชุดล่ะ 1 สีแต่มันนานตรงที่ต้องแก้ฉากรื้อถอน กันทีนานมาก ไหนยังต้องขนเฟอร์นิเจอร์มาลงอีก....แต่ก็สนุกดีเพราะได้เรียนรู้การเซ็ตแสงดูมุม เพราะไม่เคยถ่ายเฟอร์นิเจอร์มาก่อน ปกติถ่ายแต่รูปรับปรัญญา 5555+



ปล. รูปแรกคือเซ็ตแรก รูปสองเซ็ตสอง สังเกตฉากเปลี่ยนไป แต่ตอนถ่ายจริงๆ ของที่วางเยอะกว่านี่ นี่แอบๆ ถ่ายเทาที่ถ่ายได้ เพราะตอนนั้นมันวุ่นน่าดู
ปล. ขอบคุณพี่ไก่ ที่ชวนผมไปช่วยแม้จะช่วยได้ไม่มาก ไม่เคยแบกขากล้องเยอะขนาดนี้มาก่อน.....ขอบคุณครับ :D

วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Congratulation





ช่วงนี้ก็เริ่มมีงานรับปริญญากันบ้างแหละ
ถือว่าเป็นยุคๆ เลยน่ะ พอเราเรียนจบก็เริ่มมียุคเพื่อนรับปริญญา โตมาหน่อยยุคเพื่อนแต่งงาน....อีกสักพักคงถึงยุคลูกเพื่อนบวชล่ะมั่ง 555+
ตั้งแต่เรียนมาก็เริ่มรับถ่ายรูปวันรับปริญญา น้อยครั้งที่จะได้ไปถ่ายให้เพื่อน รูปที่เอาแปะไว้ก็รูปของเพื่อนๆ ที่ได้ไปถ่ายมาให้ ของคนอื่นๆ ที่เขาจ้างก็ไม่ได้เก็บไว้เลย (ไม่รู้ว่าทำไม่ไม่เก็บไว้)
งานที่ประทับใจสุดก็งานของเจล่ะมั่งน่ะ เพราะได้นั่งรถไฟตู้นอนไปขอนแก่น!!! หนาวมาก แถมได้ไปเที่ยวไปกินไปนอน ฟรี!!!! :D เปรมมาก 555+ แต่ที่ถือว่าท็อบฟอร์มที่สุดก็คงถ่ายให้ก้อยนี่แหละ จำได้ว่าก่อนไปถ่าย 1 วัน ทำงานกลับบ้านตอนตี 4 ตื่น 7 โมงง่วงมาก แต่เพือสปิริตก็ผ่านมาได้ รูปสีสดมากๆ เพราะเป็นงานเดียวที่ใช้ฟิลม์ถ่าย คนอื่นๆ ไม่อยากให้ใช้มันเปลืองล้าง+อัด ก็จริงน่ะ แต่...ก็ถนัดฟิลม์มากกว่านิ ^___^

advertising (2)

@ siam-square







advertising (1)




อย่างเป็นทางการ!!!


หลังจากได้สร้างบล็อกนี้ แต่หลังๆ ก็ได้เริ่มอัพบล็อกขึ้นเรื่อยๆ บ่อยๆ เลยอยากจะทำโปสกาดสำหรับเปิดบล็อกมาซะอัน (ถามจะเวอร์ไปไหน....ตอบเวอร์ไปเรื่อยๆ)
...เคยเห็นกระดาษห่อของขวัญกันใช่ไหมครับ งานนี้เลยทำออกให้คล้ายๆ ลายกระดาษห่อของขวัญ เพราะอยากให้ดูรู้สึกเหมือนกำลังแกะของขวัญ..... :D ส่วนสีม่วงแน่นอน สีที่ชอบ(ชอบเฉยๆ ไม่มีอะไรส่วนตัว จริงๆ น่ะย่ะ!!!)

วันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ราตรีสวัสดิ์ (Goodnight) Fukking Hero Feat. ธีร์ ไชยเดช




วันนี้ฉันมีนิทาน อยากเล่าให้เธอฟัง
นิทานเรื่อง ท ทหาร อดทน
เวลาเค้ายืนเค้าแนบปืนกลไว้ข้างกาย
ทั้งที่เค้าไม่เคยใจร้ายและไม่เคยคิดฆ่าคน
แต่เป็นอีกคืนที่เค้าต้องออกลาดตระเวน
เป็นหน้าที่ของกองพันทหารราบผู้รักตัวเอง
น้อยกว่าชนในชาติไทย
เพราะรู้ว่าเลือดเนื้อเค้าจะสละไม่ให้เราเป็นทาสใคร

ในขณะนั้น ผู้ก่อการร้ายซุ่มโจมตี
เสียงปืน ดังสนั่นตอนเวลาเลยเที่ยงคืนกว่า
เสียงระเบิดดังก้องกึกไปทั่วทั้งป่า
พร้อมเสียงกระสุนปืนทะลุตัวจ่า
เค้ารีบยกปืนกลข้างกายประทับบ่า
ในขณะที่ยิงสวนไปเค้าคิดแต่ว่า
ถ้าคืนนี้เป็นคืนสุดท้ายของชีวิต
เค้าก็ยินดีที่จะสละทุกอย่างด้วยยศอันน้อยนิด
ขอเพียงคนในชาติได้หลับสบาย
เค้าจะยืนหยัดปกป้องแผ่นดินแม้ชีพมลาย

ในราตรีที่ด้ามขวานลุกเป็นไฟ
ประเทศไทยเจ้าเอ๋ยมีคนฝากเพลงนี้มาให้

หลับตาเถอะนะ ขอให้เธอหลับฝันดี
คืนนี้ไม่ต้องห่วง ตรงนี้ฉันจะดูแลด้วยชีวิตของฉัน

ในคืนที่ผมกินเหล้าอยู่นั่งเล่น
ในคืนที่ป้าข้างห้องยังตั้งวงป๊อกเด้ง
คืนที่เด็กมัธยมนั่งท่องตำราเอนท์จุฬา
คืนที่ใครหลายคนลืมชื่อคนเดือนตุลา
คืนที่คุณนอนหลับอยู่บนเตียง
ทั้งหมดคือคืนเดียวกันกับเสียงปืนที่ดังเปรี้ยง
ของทหารต่อต้าน ข.จ.ก.
ผู้ไม่ยอมให้ใครมาเผาโรงเรียน เผาตำรา ส.ป.ช.
และยังไม่มีตอนจบของนิทาน
มีเพียงแต่ตอนรุ่งสางไม่เป็นศพก็พิการ
เพราะในทุกเช้าที่เราตื่นมาเมาขี้ตา
มันคือเช้าแห่งการสูญเสียที่ 5 องศา 37 ลิปดา
เขาตายเพื่อคนในชาติได้หลับสบาย
เขาจะยืนหยัดปกป้องแผ่นดินแม้ชีพมลาย

ในราตรีที่ด้ามขวานลุกเป็นไฟ
ประเทศไทยเจ้าเอ๋ยมีคนฝากเพลงนี้มาให้

หลับตาเถอะนะ ขอให้เธอหลับฝันดี
คืนนี้ไม่ต้องห่วง ตรงนี้ฉันจะดูแลด้วยชีวิตของฉัน
ฝากดาวบนฟ้า ร้องเพลงนี้ให้เธอฟัง
หากฉันไม่ได้กลับ อย่างน้อยให้เธอหลับสบายก็พอแล้ว

ทดไว้ในบล็อก

.....คิดอะไรไม่ค่อยออก ไม่รู้ว่าจะอัพบล็อกเกี่ยวกับอะไรดี ขอพิมพ์ไปเรื่อยๆ ล่ะกัน

วันเสาร์
- รู้สึกแปลกๆ เบื่อๆ เซ็งๆ เง็งๆ อากาศไม่ร้อนไม่เย็นฝนไม่ตก
- แถมอยู่คนเดียวอีกต่างหาก
- เมื่อวานเล่นบอลเหนื่อยมากกกก วิ่งเยอะมาก ไม่รู้มาวิ่งหรือมาเล่นบอล
- หายไปไหนกันหมด(ว่ะ)
- อยากให้มีคนโทรมาชวนไปเที่ยว ชวนไปไหนก็ได้
- แต่ก็ขี้เกียจไปอีก
- เตรียมไปลาวแหละ ซื้อตั๋วหมดแหละ....ขาไป ขากลับ ที่พัก
- เบื่อข่าวการเมือง ข่าวกีฬายิ่งแล้วใหญ๋ ลิเวอร์พูลจะซื้อใครบ้างไหมเนี่ย
- คิดไว้ว่าจะไปเตะบอลที่ลาว ถ้ามีโอกาส
- ว่าง
- รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้อ่านหนังสือเยอะ ไม่คิดว่าจะได้อ่านเยอะขนาดนี้
- เพิ่งรู้ว่าการ์ตูน onepiece มันจะสนุกขนาดนี้ ตัวละครเยอะสัดๆ
- ออกไปข้าวสารไปหาพี่รัด
- นั่งรถเมล์ไปข้าวสาร โชคดีจังได้ขึ้นรถเมล์ฟรี(นั่งกำเงินอยู่ตังค์นาน นึกอยู่ว่าทำไม่ไม่มาเก็บสักที)
- เจออันกะวิว
- เบียร์ 1 เหยือก....เย็นกำลังดี
- ได้ฟังเพลงราตรีสวัสดิ์ ของฟักกลิ้ง ฮีโร่ Feat. ธีร์ ไชยเดช
- ฮิพฮอพของฟักกลิ้งฮีโร่ ผสมกับเสียงนุ่มๆของคุณธีร์ ไชยเดชที่ผสมผสานกันได้ลงตัวมาก
- เนื้อหาโดน จังหวะดี ...โอ้ว ขนลุกว่ะ
- กลับพร้อมพี่รัด กลับมาดึกหน่อยแต่ก็ไม่มีใครบ่นอะไร :D
- ตอนอยู่ในรถขากลับ..พี่รัดแนะนำให้ทำพอร์ตเตรียมต่อโท
- สนใจอยู่ ว่าจะกลับไปเรียนแหละ
- รู้สึกหิวๆ แต่ไม่กินแล้ว(จริงๆ น่ะ)
- กลางคืนอากาศดีชะมัด...

วันอาทิตย์
- ตื่นมา..เมื่อคืนก่อนนอนนัดกะพี่รัดจะไปดูเพื่อนพี่รัดถ่ายรูปให้พี่เอพี่แนน
- ตื่นมา..ไม่มีใครอยู่แล้ว
- ง่วงๆ นิดนึง นอนดึก แต่เช้านี้ตื่นมา 8 โมงกว่าๆ
- โชคดีติ่นมานั่งดูหนัง โกลคลับ ช่องเคเบิ้ล(ไม่ได้ดูนานแล้ว) ชอบ
- ดูได้หน่อย เม่งก็จบแหละ...
- ดูการ์ตูนดราก้อนบอลภาค GT ช่อง 3 ไม่เห็นสนุกเลย
- หรือเราโตเกินกว่าที่จะดูการ์ตูนแล้วว่ะ แล้วทำไมการ์ตูน onepiece มันสนุกว่ะ
- ดูไปซะพัก...เผลอหลับ
- สะดุงตื่นไปกับเสียงรายการสตอเบอรี่ชีสเค้ก เจี๊ยวจ้าว จะแย่งกันพูดทำไม
- วันนี้บ่าย 3 มีคอนเสิร์ต ไมเคิล แจ๊คสัน ว่าจะรอดู
- วันนี้ยังไม่หมดแต่คิดว่าน่าจะมีอะไรให้คิด ให้ทำอีกเยอะ
- แล้วจะมาทดอีก ชอบแบบนี้จัง

วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

สมอง สมัคร สมาน


เรื่องนี้เกิดขึ้นมาจากเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในวันศุกร์ช่วงเย็นๆ "สวัสดีค่ะ เสาร์นี้คุณได้ไป workshop ที่ TCDC กับนิ้วกลมน่ะค่ะ" วางโทรศัพท์พร้อมกับงงๆ + ตื่นเต้นนิส์สสสนึง ย้อนกลับไปช่วงต้นเดือน มีกิจกรรม workshop กับนิ้วกลม โดยที่จะร่วมได้นั้นคุณต้องส่งรูปภาพที่ "ฉลาด" ให้นิ้วกลมเป็นคนเลือก.....ซึ่งของผมผ่านพอดี :D
เช้าวันเสาร์ตื่นมาก็อาบน้ำ ออกไป TCDC พร้อมกับ Fino คู่ใจ...มาถึงสังเกตคนร่วมงาน....มีแต่เด็กนึกศึกษานี่หว่า..มานั่งคิดนี่กูก็โตมากๆ แล้วแต่ความฉลาดเท่ากับเด็กนักศึกษาหรอว่ะ สักพัก อ๋อ มีคนอายุประมาณเราด้วย ค่อยยังชั่ว เหอะๆๆ ถึงเวลาก็ลงทะเบียนก็ได้กระเป๋าผ้าสมุดจดปากกาแล้วก็ Branefit มา 1 ขวด(เป็นคนจัด workshop นี้) เริ่มด้วยการทักทายเพื่อนๆ แนะนำตัวเอง แล้วก็กิจกรรมให้คิดไปเยอะแยะ ในการใช้สมอง มีโจทย์ต่างๆ นานา เช่น มีกระดาษ ให้คนล่ะ 2 แผ่น ให้ทุกคนทำอะไรก็ได้ แต่กระดาษนั้นจะไม่ใช้กระดาษอีกต่อไป ให้เป็นอะไรก็ได้ บางคนก็พับเป็นนก(เสรีภาพ) เป็นเรือเป็นหมวก อะไรก็ว่าไป แต่ปัญหาของผมก็คือ ....กูพับไม่เป็น เลยมาปิ้งได้ก็คือ ..ช่วงบอกว่าของเราคืออะไร ผมก็ลุกขึ้นยืนพร้อมชูกระดาษ 2 แผ่นขึ้นพร้อมพูดว่า "สิ่งนี้คือน้ำใจ ใครอยากได้อีกมาเอาที่ผมได้น่ะครับ" เรียกเสียงฮือฮาได้อย่างมาก คนหล่อพับซะวุ่นวาย ผม ไม่ได้ทำไรเลย แถมดูมีน้ำใจ หล่ออีกต่างหาก 555+
พักกินข้าว ....เซ็งมากแค่ชั่วโมงเดียว พยายามรีบไปหากินข้างนอกจะได้ถูกๆ แต่คนอย่างเพียบบบบ เลยกลับมาหาฟู๊ดคอร์ท (เม่งลึกลับ หาไม่เจอ) ที่ห้างก็ไฮโซอยู่แลว ไปฟู๊ดคอร์ท อย่าคิดว่าจะถูก ข้าวหน้าไก่ + โค้ก = ร้อยนิดๆ นึกว่ากินเซสเตอร์กิว
กลับมาต่อก็มีโจทย์ มีเกม ให้คิดกันไปเรื่อยๆ จนถึงช่วงเย็น
ก็สรุปได้ดังนี้น่ะครับ(เท่าที่คิดไว้)
มาที่นี่ก็ได้รู้จักการแก้ปัญหาเบื้องต้น หรือแม่กระทั่งในเวลาที่มีปัญหา มันเป็นโอกาส ที่ทำให้เราคิดหาทางออกในสิ่งที่ดีกว่า และที่ชอบที่นิ้วกกลมหรือ เอ๋ ชื่อเล่นนิ้วกลม บอกว่า คนเรามีจุดเริ่มต้นและจุดจบเหมือนกันแต่สิ่งที่ต่างกันก็คือ ระหว่างทาง ของแต่ละคน

จบท้ายด้วยนี่เลย นิ้วกลมก็ให้หนังสือมาคนล่ะเล่ม เลยเดินไปขอลายเซ็นมากับถ่ายรูปด้วยกัน 1 แซะ...อิอิอิ จะว่าบ้าดาราก็ช่าง คนเค้าชอบนี่น่า :P

วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

In Trand

ช่วงนี้ข่าวไข้หวัดใหญ่ 2009 มีออกมาเยอะเชียว ต้องป้องกัน กันหน่อยแหละ นี่เป็นโฆษณาของรัฐบาลประเทศออสเตรเลีย ...ส่วนของเรา.....เฮ้อ ต้องรอให้มันเป็นนี้ก่อนใช่ไหมเนี่ย ยอดติดเชื้ออันดับหนึ่งในอาเซ๊ยนแล้วค่อยมาป้องกัน โถ่ บ้านเรา

The Hero Factory


บังเอิญเข้าไปดูเวบของพี่ Opal มา พี่เค้าแนะนำให้ไปเล่นเวบนี้ดูhttp://www.cpbintegrated.com/theherofactory/ ลองสร้างตัวเองเป็นฮี่โร่ดูซิ เท่ไม่หยอก 555+

ของผมถือถุงผ้าช่วยลดโลกร้อน (แม่ใช้ไปซื้อของ) :D.....ชอบสีม่วงเฉยๆ ไม่มีไรมากกว่านั้นน่ะ

ตะลอนลาว 7-10/8/2009


แบบแรกตั้งใจทำให้ดูทื่อๆ ง่ายๆ เหมาะดีน่ะผมว่า แต่เสียดายแบบที่สองที่ทำสีให้เป็นธงชาตืสาว แต่รู้สึกว่า "เยอะ"ไป เลยใช้แบบแรกดีกว่า ชัดเจนดี

เล็กๆ น้อยๆ

เมื่อวานตอนเย็นกำลังไปเล่นบอล(โปรแกรมลดอ้วน ลดโรค ของผม) โดยที่อารมณ์อยากเตะบอลมาก ร้างสนามไปประมาณ 3-4 วัน แต่พอไปถึงก็พบว่าชาวแก๊งค์ที่ผมไปขอเข้าร่วมเล่นนั้นมาน้อยกันเหลือเกินมีประมาณ 4-5 คน เอง โดยที่เขากำลังเล่นตะกร้อกันอยู่ด้วย มีตาข่ายพร้อมประมาณว่ากูไม่ได้เล่นบอลแน่ๆ กำลังคิดอยู่ว่าจะกลับดีไหม ทันใดนั้นพี่ๆ เขาก็เรียกไปเล่นด้วย ครบทีมพอดี โดยที่ผมแทบไม่เคยเล่นตะกร้อเลยด้วยซ้ำ ครั้งสุดท้ายก็นู่น...สมัยเรียนมัธยมนั่น

เล่น...ไป...เล่น...มา............เออ สนุกว่ะ โดยที่มีจังหวะที่ผมกระโดดตีลังกาแบบที่นักตะกร้อทำกันเลย แต่ผมกระโดดไปแล้ววืดไม่โดนล้มฟาดพื้นไป 2-3 ที 5555+ ไม่เข็ด แต่ก็เป็นอะไรที่แปลกตาแปลกใจสำหรับผมมากในการออกกำลังกายครั้งนี้ ในสนามผมเล่นได้อ่อนที่สุด เป็นจุดบอดของทีมเลย แต่พี่ๆ เขาก็ยังช่วยมาประคองสอนเล่นๆ แถมยังให้ลองเสริฟด้วยอีกต่างหาก ทำให้รู้สึกมีอารมณ์ร่วมในการเล่นครั้งนี้มาก ถือเป็นไฮไลต์ประจำวันของผมได้เลยทีเดียว......ความสุขเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้แหละที่ผมอยากมาเล่าให้ฟัง

คราวหน้าลองเล่นอะไรอย่างอื่นบ้างดีกว่า ^__________^

ความบังเอิญ จากแรงบันดาลใจเดียวกัน(2)

จำหนังสั้นที่เคยเล่าให้ฟังได้ไหมครับ จากหนังสือ หญิงสาวนักขายขนมปัง ของพี่โหน่ง วงศ์ทนง

อย่างที่เล่าให้ฟังไป เมือคราวที่แล้วที่เกี่ยวกับหนังสั้น เรื่องของผมที่ทำส่งอาจารย์สมัยเรียนที่ผมนั้นไม่สามารถ เอามาให้ดูได้เพราะได้หายไปจากโลกนี้ไปแล้ว เสียดายสมัยเรียนเล่นคอมไม่ค่อยจะเป็นเลยไม่รู้เรื่องพวกบล็อก พวกอัพโหลด 5555+ เฮ้ออออออ
หลังจากได้ไปดูหนังของคุณ "ปั๊กพี" จากเวบ "http://pugp.multiply.com/" ก็ได้พบเรื่องเดียวกันของจริงกับเรื่องที่ผมทำในอดึตกาล

เป็นเรื่องของหนุ่มคนหนึ่งที่มีความสุขทุกๆ ครั้งในเช้าวันจันทร์ไปจนวันศุกร์ เพราะอะไรน่ะหรอ เพราะเขาได้เห็นสาวคนหนึ่งที่เขาแอบชอบ ทุกๆ วัน เขาจะได้เจอเธอที่ป้ายรถเมล์ประจำ เมื่อเจอทุกๆ วัน แต่ก็ไม่ได้ทำความรู้จักสักที วันหนึ่งเขาจึงตัดสินใจรวบรวมความกล้าเข้าใกล้กับเธอทุกวันๆ จนรู้จักกัน แต่ตอนจบนั้นเรื่องของผมกะคุณ "ปั๊กพี" นั้นไม่เหมือนกันเลย ไม่เหมือนอย่างไร เด๋วลองให้ไปดูก่อนน่ะครับ ดูเสร็จแหละจะกลับมาเล่า....

part 1



part 2





เป็นไงครับ นางเอกน่ารักเนอะ 555+



เรื่องที่ได้ดูไป เค้าโครงเรื่องคล้ายกันแต่ต่างจากเรื่องของผมตรงที่ เนื้อหารายละเอียดในเรื่อง และที่สำคัญ เรื่องของผมนั้น ไม่มีเสียง เป็นหนังเงียบ ซึ่งที่ทำแบบนี้เพราะไม่มีอะไรมากมาย ไม่ใช่เพราะแนว เท่ หรืออย่างไร เป็นเพราะว่าตอนตัดต่อนั้น(พวก)ผมใส่เสียงกันไม่เป็น 555+ ตอนตัดต่อนี่แบบว่าเปิดหนังสือไปด้วย ทำไปด้วย มานะมากๆ (ทำไปได้) แต่ก็ดีใจ ที่ตอนฉายหนังเพื่อนๆ ที่ดูก็อ๋อกันตอนจบ ดีใจที่เขาดูกันรู้เรื่องว่าเราต้องการจะสื่ออะไร แต่ตอนนี้เรื่องแบบนั้นคงกลายเป็น....อย่างที่บอกเรื่องนี้แผ่นเสียแถมตันฉบับยังหายไปแล้ว เรื่องนี้คงรู้กัน 2 คนจริง เนอะไผ่ (ไผ่คืออีกคนในโลกที่รู้เรื่องหนัง 555+)



ปล. แต่นางเอกผมสวยกว่าเยอะ เรื่องนี้ต้องให้เครดิต มล เพื่อนสาวสุดแกร่งที่ทำตามที่บอก ขออะไร ทำได้หมดแต่ขอสวยด้วยน่ะมึง 55+
ปล. 2 มล มันคงเซ็งที่พระเอกเรื่องนี้คือ.....(คุณคงทายถูกใช่ไหมฮะ) :D

เซ็งเป็ด

วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Total Bangkok



ตามกระแสช่วงนี้หน่อย เนื่องจากตอนนี้หนังของคุณเป็นเอก รัตนเรืองกำลังเข้าฉายอยู่ "นางไม้" แต่โทษทีเพ่ ผมไม่ได้เล่าเรื่องนี้
จะเล่าเรื่อง Total Bangkok ภาพยนตร์สั้นกึ่งสารคดีความยาว 21 นาทีจากไนกี้ เรื่องราวของนักบอลใต้ทางด่วนทั้งหลายที่ฟาดแข้งกัน โดยมีคุณสันติ แต้พานิชเป็นผู้ช่วยผู้กำกับครับ ส่วนคลิปที่เอาให้ดูเป็นแค่ Trailer น่ะครับ ส่วนตัวเต็มไม่รู้ว่าจะหาที่ไหนเหมือนกัน แต่ถ้าได้มาจะเอามาลงให้ดูน่ะครับ

อ๋อ หนังเรื่องเข้าฉายเมื่อประมาณปี...49 ถ้าจำไม่ผิดน่ะครับ ผมได้มีโอกาสได้ดูรอบสื่อมวลชนด้วย เพราะโทรไปขอที่ Fat104.5 โทรไปทีเดียวติดเลย...(ดูแล้วอยากเล่นวินนิ่งมากกกก ใครจะเจอผมได้น่ะวินนิ่ง ไม่ต้องกลัวหรอก ใช่ไหม Rutty 555+ Match ของเรารู้สึกจะหายไปนานแล้วน่ะ)

เลิฟเหลือล้น





รื้อๆๆๆๆ งานในคอมไปเจอช่วงป๊อบปี้ เลิฟของผม วัยคันหาตัวเอง(มาถึงตอนนี้ก็ยังหาไม่เจอ ตัวก็ไม่เล็กหายากจัง) ช่วงนั้นก็เป็นเวลาเริ่มหัดทำโปรแกรม Illustrator + Photoshop ก็เลยใช้เป็นตัวช่วยในการจีบหญิง เลยมานั่งทำโปสการ์ดไว้จีบสาวๆ โดยที่บ้างอันก็ไปเจอในหนังสือ Graphic ของเมืองนอกเมืองนาเท่ๆ แล้วมาดัดแปลงบ้างในเป็นแบบเรา ซึ่งบางครั้งทำไปทำมาก็ไม่ได้มีเค้าโครงจากอันเก่าเลยยยยย (ดูจากเมืองนอกแล้วมาทำตามเค้า ทำให้ผมได้รู้เครื่องมือเยอะ เพราะได้ดูว่าสิ่งที่เค้าทำ ใช้เครื่องมืออะไร โตมาตอนนี้คิดเองเป็นแล้วครับ ดูไว้ให้เกิดมิติหลายๆ ด้าน....จริงๆ น่ะ)

เชื่อไหม มุกเนี้ย ได้ผลมาแล้ว หึหึหึ