วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ธุรกิจ+น้ำใจ


วันนี้ตอนเช้าขี่มอไซค์ ไปทำงาน ระหว่างทาง....เห็นคนขอทาน ตามข้างถนนปะปนไปกับผู้คนที่กำลังเร่งรีบไปทำงาน(เราก็เร่งพอกัน)

เด็ก ผู้ใหญ่ คนแก่ หญิงชาย ปะปนกันไป

เด็กๆ นั่งขอเงินจากผู้คนที่เร่งรีบเหล่านั้น..กันเรียงราย

ไฟยังแดงอยู่....นั่งคิดเกี่ยวกับองค์กรธุรกิจขอทานโดยที่ให้พวกเด็กๆ ตัวเล็กมาขาย และเคยจำได้เกี่ยวกับโฆษณาไม่ให้เงินแก่เด็ก หรือขอทานเหล่านี้ เพื่อตัดปัญหาเกี่ยวกับการทำรายได้ของพวกมิจฉาชีพ เงินที่ได้จากคนที่สงสารให้ทานเหล่านั้น ไม่ตกถึงเด็กน้อยที่ขอทานเหล่านั้น........มันถูกต้องแลัวหรอที่แก้ปัญหาแบบนั้น ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าถูกต้องเท่าไรนัก ถ้าเกิดเป็นคนที่ไม่มีอะไรจริงๆ ล่ะ จะมีผลกระทบไปด้วยไหมน้าาาา คนเราเกิดมาเพื่อรู้จักการให้ จะบังคับไม่ให้คนเหล่านั้นได้หรอ เคยอ่านหนังสือมา เขาบอกว่า "ประเทศใดที่มีขอทาน แสดงว่าประเทศยังมีคนพร้อมที่จะให้ และถ้าบางประเทศไม่มีขอทาน น่าสงสัยว่าประเทศนั้นจะรู้จักการให้หรือเปล่า"

นั่งกินข้าว มีเด็กขายพวงมาลัย เด็กขายลูกอม คนแก่ขายทิชชู่ คนแก่ขายลูกอม ฯลฯ
เคยซื้อถ้าอยากได้ไม่อยากซื้อเพราะความสงสาร เพราะเราก็ไม่มีเงินเหลือขนาดนั้น และเคยเห็นกลุ่มวัยรุ่นหนุ่ม-สาวกินข้าวอยู่....แลัวมีคนแก่มาขายพวงมาลัย ก็ยืนอยู่ไม่นานเท่าไร วัยรุ่นก็ให้เงินไป คนแก่คนนั้นก็จะเอาพวงมาลัยใส่ถุงให้ แต่วัยรุ่นกลับปัดมือไม่เอา ประมาณว่า 20 นั้นผมให้คุณ..ดูแลัวก็รู้สึกไม่ดีอีก ไม่ดีก็ตรงที่คนแก่คนนั้นมาขายของไม่ได้มาขอทาน (อาจจะเป็นการตลาดของเค้าก็ได้) ส่วนตัว(อีกแหละ) ผมว่าถ้าเค้าขายของและเราซื้อมาก็เพราะเราต้องการไม่ใช่เพราะความสงสาร การซื้อขายก็คือการแลกเปลี่ยนมากกว่า ดีกว่าให้ไปฟรีๆ เพราะจะทำให้เค้าคิดว่ามันคือการ"ขาย"ของไม่ใช่การ"ขอ"ของ...

ไฟแดงยังอยู่...เหลือบไปเห็นเด็กเช็ดกระจก....บ้างคนเมื่อเห็นเด็กเหล่านี้เดินมา จะเกิดความอัตโนมัติขึ้นมาทันที ในการโบกมือ(ไม่ได้เรียกให้มาน่ะ) ส่ายหน้า ไม่เอา เพื่อนผมบอกว่า บางครั้งก็ทำให้กระจกสกปรกอย่างเดิม บ้างอ่ะ เป็นรอยบ้างอ่ะ แต่ ผมก็รู้สึกน่ะครับ ว่า เด็กตัวแค่นั้น กับการศึกษาที่ไม่สูงตามไปด้วยนั้น จะคิดอะไรออก นอกจากการเช็ดกะจก ผ้า 1 ผืน กับน้ำยา(ไม่ก็น้ำเปล่า) ก็เปนการลงทุนไม่มาก ถ้าเทียบกับรายได้ที่เค้าจะมี บางครั้งผม ว่าการให้เค้าเช็ดกระจกหน้ารถคุณ มันอาจไม่ใสเท่าไร แต่การให้เช็ดครั้งนี้ อาจทำให้ใจเราใสขึ้นก็ได้น่ะครับ

ปล. ถ้าอ่านแล้วไม่ปะติดปะต่อ อย่างงงน่ะครับ

วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ทดไว้ในบล็อก (4)

- ยิ่งอยากพิเศษ ยิ่งไม่พิเศษ
- เริ่มด้วยคำคม
- ในที่สุดก็สิ้นเดือน
- เริ่มรายการปลดหนี้(ฮา)
- ซื้อ a day เล่มใหม่มาอ่าน เล่มนี้ ธีม"พุทธศาสนา"
- อ่านแล้ว สงบ
- ในหนังสือ a day
- a day ถาม: ตายแลัวไปไหน ?
- พระมหาสมปอง ตอบ: วัดไหนใกล้ก็ไปวัดนั้น ขนาดอยู่ยังไม่รู้จะไปไหน แลัวตายจะรู้ได้อย่างไง
- สุดท้ายก็ซื้อ หนังสือ Bear Wish มาจนได้
- ในเล่ม มีชื่อเราด้วย
- เงินเดือนออก กับที่ทำงานใหม่
- หมวกกันน๊อคใหม่
- บัตร เอทีเอ็ม ใหม่
- บัตรดีไซส์ โดยเราเอง คริคริคริ
- สวยงาม
- ปากกาด้ามใหม่
- เด๋วนี้เป็นบ้าอะไร จะกลับบ้านฝนก็ตก
- ไปทำงานเสือกไม่ตก (ฮา)
- เดิน TOPS ไปเจอขวดน้ำเปล่า สวยดี
- คุ้นๆ เหมือนเคยเห็น
- อยู่ใน a day เล่ม108
- ชื่อยี่ห้อ "น้ำจิต น้ำใจ" 9 บาท
- โลโก้ สวยดี ชอบแบบนี้ เรียบง่าย
- เจองานของ B.A.D. เป็น Print AD 5 แบบ
- มี 2 แบบที่ Visionary ทำ
- เจ๋งดี
- ตอนนี้ชอบโฆษณา MK มาก
- วันเสาร์ เสียดายอดดู Rutty ซ้อมดนตรี
- วันเสาร์หน้าไม่พลาด
- เมื่อวานนอนเร็วมาก ตากฝน จนไม่สบาย กายไม่เป็นสุข ลุกไม่ไหว
- โต๊ะทำงานเริ่มรกแหละ 5555+
- ร่วมส่งผลงาน "ThaiPo บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" ไปเจอในเวบ f0nt.com
- พอส่งไปทางเมล์ อีกวันทางทีมงานเมล์กลับบอกว่า "งานนี้เป็นชิ้นแรกที่ส่งมาเลยครับ"
- โห นี่สรุปกูว่างหรือไม่ว่างว่ะเนี่ย
- อ๋อ สำหรับตัวงาน "I am a Thai Graphic Designer" มีนิทรรศการแหละ
- วันที่ 3 -11 เดือน 10
- อีก 1 เดือน (แลัวจะถ่ายรูปมาให้ดู)
- ปีใหม่ หาที่ไปได้แหละ
- ลาวอะเก้น วิส รัสตี้ 55+
- เมื่อวานกินเอ็มเค กะที่บ้าน อิ่มมากกกกก
- ค้นพบ เมนูใหม่ นั่นคือ ชุดรวมเห็ด
- ปกติไม่เคยสั่ง เน้นเป็ด 555+
- กินเบียร์กะพ่อ ชิวๆ
- รู้สึกอยากเจอเพื่อน
- ขอพื่้นที่เล็กๆ ได้ไหมเนี่ย
- รู้สึกดีที่ทุกๆ อาทิตย์ เรามีแผนงานการทำงาน
- วันก่อนฝันว่างานเข้า วิ่งไปวิ่งมา เหนื่อยมากกกก
- ตื่นมา เหงื่อแตก แถมรู้สึกเหนื่อยอีกต่างหาก
- หรือว่าละเมอไปวิ่ง(ฮา)
- เรื่อยเปื่อยไปหน่อยช่วงนี้
- พอวันหยุดก็ดูนู่น อ่านนี่ ทำนั้น ไม่ค่อยเป็นโล้เป็นพายเท่าไร
- อย่าว่ากันเน้อ
- แต่ติดเน๊ตมากช่วงนี้ (ก็อัพบล์อกนี่แหละ)
- ครั้งนี้พอก่อน เขียนเรื่องชิวๆ แค่นี้แหละ
- หนักๆ ไว้บทหน้า
- อย่าเพิ่งเบื่อน่ะ
-
-
- รัก คนอ่าน(แลัวชอบ) 555+

วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2552

คืนวันศุกร์


คืนวันศุกร์(Friday Night) - Saliva bastards

ทุกคืนวันศุกร์ ฉันนอนไม่ค่อยจะหลับ
ฉันออกไปเที่ยวกลางคืนถ้าไปเที่ยวผับฉันคงยืนเต้นคนเดียว

* อยากจะพบกับเธอจัง อยากจะพบกับเธอจัง
อยากจะรู้ว่าเป็นไง อยากให้รู้ว่าสนใจ
อยากจะพบอยากรู้จัก อยากจะพบอยากรู้จักแต่ไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไง

ถ้าเธอรีบกลับฉันคงไม่ค่อยสนุก
ไม่อยากยืน เก้อลำพัง
อยากขอวอนเธอหน่อย ฉันคอยเธออยู่คนเดียว

Laos Town Story (ตะลอนลาว) ตอน เวียงจันทร์กันเอง

บทที่ 6 น้อยแต่มาก

ตื่นมา 8 โมงครึ่ง นั่งๆ นอนๆ บิดตัวสักพัก เรียกพนักงานมาเก็บเตียง(เร็วเหมือนเดิม) ดูวิวออกไปข้างนอกหน้าต่าง จากที่มีอะไรๆ เต็มๆ และตึกสูงๆค่อยกลายเป็น เล็กๆ โล่งๆ จะมีสูงๆ ก็ต้นไม้นี่แหละ จากอึดอัดสู่ความปลอดโปร่ง

และแล้วก็มาถึง ประมาณ 9 โมงครึ่ง พอมาถึงสถานนีหนองคาย แน่นอน สิ่งหนึ่งที่ไม่พลาด..เข้าห้องน้ำต่ออีก 1 ดอก 555+ (เรื่องคี่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับผมจริงๆ ) จากสถานนีนี้เราต้องลงไปต่อรถไฟไปสถานนีท่านาแล้ง ซึ่งเป็นเที่ยวที่ข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว เป็นรถไฟชั้น 3 ราคา 20 บาท แอร์เพิ่มอีก 10 บาท ที่สำคัญสำหรับคนที่ยังไม่มีพาสปอร์ตเฉกเช่นผมให้ไปทำใบผ่านแดนชั่วคราว ไม่รู้ทำที่ไหนบอกพนักงานรถไฟไปเลยเพราะเด๋วเขาจัดเป็นธุระให้ ก็เสียค่าจ้างด้วยน่ะ ประมาณ 100 บาท อยู่ได้ 3 วันครับ ไม่ยุ่งยากเท่าไร เอาบัตรประชาชน กะเงิน 100 บาทแล้วรอแค่นั้น กลับมาที่รถไฟขบวนนี้ต่อ รถไฟไปทุ่งนาแล้งจะมีวันล่ะ 2 รอบเท่านั้น คือรอบ 10 โมง กับรอบ 4 โมงเย็นเลย แต่ไม่ต้องกลัว เพราะยังไงๆ เขาจะรอให้นักท่องเที่ยวทำเรื่องตรวจเข้าเมือง ซื้อตั๋ว ให้ครบทุกคนอยู่แล้ว…บนรถไฟ ส่วนใหญ่ก็มีชาวต่างชาติซะมากกว่ามีตำรวจของลาวด้วย(การแต่งตัวไม่ค่อยเนี๊ยบเท่ากับไทยเท่าไร ตือประมาณว่าไม่ตึงๆ เท่า ดูไม่น่าเกรงขามเท่าไรในสายตาผมน่ะ) มาที่ไฮไลท์ บนรถไฟกำลังข้ามแม่น้ำโขงโดยที่เราอยู่บนรางซึ่งอยู่ตรงกลางของรถไฟ โดยที่ระหว่างรถไฟวิ่ง สะพานจะไม่ให้ รถยนต์ผ่านเลย เพราะความกว้างของสะพานไม่ได้ใหญ่เท่าไร ประมาณสะพานซั้งฮี้บ้านเราได้มั่ง เอาเข้าจริงๆ ไฮไลท์นี่ก็ไม่มีอะไรมากมาย แต่มันมากมายก็ตรงที่ข้ามไปต่างประเทศนี่แหละ จากประเทศหนึ่งไปอีกประเทศหนึ่งเลยน่ะ มากมายป่ะล่ะ


ความแตกต่างระหว่างเตียงบนและล่าง

บรรยาศที่สถานนีหนองคาย คนเงียบเชียบและบนรถไฟก่อนข้ามสพาน...ฝรั่งเพียบ คนไทยมีน้อย



บรรยากาศข้างนอกรถไฟ(ฝนมันจะตกเลยครึ้มๆ)

วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Laos Town Story (ตะลอนลาว) ตอน เวียงจันทร์กันเอง

บทที่ 5 แบ่งไฟไปสปาร์ก

นั่งออกมาได้สักพัก หลังจากอิ่มมาม่า…ก็เริ่มไม่มีอะไรทำ วิวนอกหน่าต่างก็มืดจนไม่เห็นอะไรเลยพยายามอยากให้นอนเร็วๆ เพราะพรุ่งนี้ต้องเหนื่อย (แต่สนุก) แน่นอน นั่งดูพนักงานบนรถไฟเริ่มมาจัดที่นอนให้ …..คล่องมาก แปปๆ เสร็จ แปปๆ เสร็จ เซียนมาก เนี้ยบด้วยน่ะ ผ้าปูงี้ตึงเลย เห็นผ้าขาวของเตียงเลยมานั่งนึกถึงเรื่อง Departures (คนที่ไม่รู้จักแนะนำให้เลื่อนไปดูบทความเก่าเกี่ยวกับหนังน่ะครับ)…คิดแล้วก็กลัวเอง นั่งไปเรื่อยๆ ปวดท้องเลยไปเข้าห้องน้ำรถไฟ ต้องเกร็งตัวเพื่อให้ลง 555+ ไม่ได้อะไรขนาดนั้น เด๋วนี้ห้องน้ำรถไฟทำดีแล้วครับ ถึงจะแคบไปหน่อยก็เหอะ (สำหรับใครที่อ่านไปกินข้าวไปก็โทษทีล่ะกัน (ฮา)

ก้อยกับปลาดิบ

บรรยากาศในรถไฟที่ยังไม่ได้ปูเตียง

พอประมาณ 4 ทุ่มก็เริ่มหลับๆ กันหมดแหละ จากเสียงคุย กลายเป็นเสียงกรน จากเสียงคนกลายเป็นเสียงสับปะหลาด…ผมก็แปลงร่างครับ 55+ ตอนประมาณสัก 5 ทุ่ม กว่าๆ นอนๆ อยู่แอร์เริ่มดับ รถไฟก็หยุดวิ่ง…….สักพักไฟดับหมด!!! แล้วรถไฟก็ต้องหยุดวิ่งเพื่อให้จนท.ลงไปตรวจดูห้องเครื่อง แรกๆ ก็วิ่งไปเรื่อยๆ แบบว่า…อืมมมม เหยาะๆ ล่ะกัน จากที่ลงไปข้างล่างตรวจเครื่องยนต์ไม่ได้ผลก็มาเติมบนรถไฟนี่แหละ พนักงานก็หาจุดเติมน้ำ แจ๊คพ๊อตกับผู้โดยสารฝั่งตรงข้ามพอดี เริ่มต้องตื่นแล้วถอดที่นั่งแล้วก็เตียงออกมาเติมน้ำแอร์ ที่เสียเพราะมันแห้ง เห็นก้อยบอกว่า รถไฟที่เรานั่งอยู่เนี่ยใช้กระแสไฟฟ้าแบตเตอรี่และบางทีก็ใช้ระบบพลังงานแสงอาทิตย์เข้าช่วย แต่เหตุเกิดตอนกลางคืนเค้าก็ต้องแก้ปัญหาโดยการแชร์ไฟจากตู้อื่นมา ตอนแรกลองแชร์ไฟจากตู้ชั้น3มา แต่ก็ยังไม่เวิร์ค เลยแชร์ไฟจากตู้ชั้น1แทน ก็เลยแก้ได้แต่เห็นเค้าคุยกันว่าถ้ายังแชร์ไม่ติดอีกก็ไม่รู้จะทำไงแล้ว...555 ก้อยยังบอกอีกว่าเห็นพนักงานคุยกันว่า ถ้าแอร์ยังไม่ติดละก็ ก็ต้องคืนเงินให้ผู้โดยสารตู้ปรับอากาศทั้งหมดตามจำนวนส่วนต่างของตู้ปรับอากาศกับตู้พัดลมและเปิดกระจกให้ซะงั้นไปเลยต้องเสียได้ประมาณ ครึ่งชั่วโมงก็เดินทางกันต่อไป นึกว่าจะได้เงินคืนซะแหละ จะได้ไปกินข้าวที่เสบียงตอนเช้า 555+

Laos Town Story (ตะลอนลาว) ตอน เวียงจันทร์กันเอง

บทที่ 4 รถด่วนขบวนสุดท้าย และเวลาไทยๆ

ตื่นมาแต่เช้า เก็บกระเป๋าพยายามหาเสื้อผ้าที่เบาๆ ไป เพราะกะไว้ตอนขากลับจะได้มีที่เหลือสำหรับของฝาก (เหล้า เบียร์มันหนัก 555+) กางเกงขายาว 1 ตัว ขาสั้น 1 ตัวเสื้อ 4 ตัว และกอกอนอพอสมควร กับกระเป๋ากล้อง แค่นี้พอรถไฟออก 2 ทุ่ม นัดก้อยไว้ที่หัวลำโพง 1 ทุ่มตรง KFC ก่อนหน้านั้น ก็แวะไปหาพี่รัดกะพี่เอ ที่ออฟฟิค(Kardd) ก่อน นั่งรอเวลาคุยเล่นกะพี่เอ ไปเรื่อย พี่เอก็เลยขอ ”ของฝากซะเลย” ที่ชงกาแฟของเวียดนาม…เอออ พี่ฮะ เบิ๊ดไปลาวเพ่ กลัวน้องโง่ พี่เอจัดการปรินท์รูปมาให้ดู…ก่อนไปก็โทรหาพี่ Opal สอบถามแหล่งเที่ยวก็แถวๆ วงเวียนน้ำพุ ที่ผมจะไปพักพอดี

ช่วงนี้ไข้หวัดมันเยอะ เตรียมป้องกันไปด้วยก็ดี(ขอฮา 1 มุก)

พี่เอ...กลัวไม่ได้โปสกาด ส่งมาทางเมล์ SMS และจดให้ด้วย
แถมปรินท์รูปกาแฟเวียดนามอีก


ก้อย..เจ้าของทริปนี้ ดีไม่ดี เด๋วก็รู้ 55+

ได้เวลา มาถึงหัวลำโพงประมาณ ทุ่ม 40 นาที เจอก้อยแล้วไปที่ชานชาลาทันที…รถไฟด่วนปรับอากาศ สาย 69 ชั้น 2 กรุงเทพฯ-หนองคาย รอบ 2 ทุ่มตรง เที่ยวสุดท้าย ราคาตั๋วโดยสารรถไฟเตียงบน 688 บาท-เตียงล่าง 758 บาท ก้อยบนเบิ๊ดล่าง 555+ นั่งบนรถไฟ รู้สึกหิวๆ เลยขอดูเมนูอาหารจากพนักงานหญิง..ดูไปสักพัก อิ่มดีกว่า ราคาแอบแพง 85-100 บาทต่อจานน่ะ (พวกๆ กะเพราหมูสับไข่ดาวแหละฮะ มีพวกเป็นกับข้าวแย่างๆ ด้วย) โชคดีก้อยเอาผัดมาม่ามาให้ แม่ก้อยทำไว้ให้คนล่ะ 1 ถุง..โอ้ว สุดยอด อร่อยมากมาย แก้ปัญหาหิวไปได้เยอะ รถออกจริงๆ ประมาณ 2 ทุ่ม ครึ่ง ช้าไปครึ่งชั่วโมง มาตราฐานรถไฟไทยจริงๆ มานั่งนึกว่าถ้าเป็นเวลาตรงเป๊ะๆ แบญี่ปุ่น ผมว่าคนไทย ตกรถไฟกันเยอะแน่ๆ เพราะบ้านเรารถติดกว่าเราจะมาถึงรถไฟก็ออกไปแล้ว ผมว่าแบบนี้ก็โอเคน่ะครับ ใจเย็นๆ รอคนที่ไม่ทันด้วยดีกว่า …ถ้ารีบคงนั่งอย่างอื่นกันแล้วแหละ เพราะรถไฟไทย ถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง :D

วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2552

อยู่สีไหน????

ยังไม่หายอิน เอาปฎิทินเบียร์ลาวปีล่าสุด มาให้ดูกัน..แล้วเตรียมพบกับเรื่องลาวตอนใหม่ได้ในเร็วๆ น่ะครับ








*เครดิตจากเวบ http://www.beerlao.la/
คุณล่ะสีไหน อิอิอิอิ

วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ส่วนประกอบสำคัญของการเขียนหนังสือ

อย่างที่บอกไป....ก่อนที่จะไปลาวผมได้เตรียมเขียนเรื่องราวเกี่ยวกะลาวมาให้อ่าน (ตอนนี้ก็กำลังเขียนๆ ให้จบอยู่ครับ) เลยมานั่งนึกว่าเขียนอย่างไรให้สนุก เขียนอย่างไรให้คนอ่านเข้าใจ เลยลองไปขอคำแนะนำจากคุณเอ๋ หรือ"นิิ้วกลม" ที่หลายคนรู้จัก..

คำถาม :
"มีเคร็ดลับอะไรทำให้งานเขียนเราสนุก หรือให้คนอ่านเข้าใจไปกับสิ่งที่เราเขียน กลัวคนเข้ามาอ่านไปอินไปกับเรา.....ห้ามตอบว่า ต้องอ่านหนังสือเยอะแล้วจะเขียนได้"

คำตอบ :

"วิธีเขียนให้สนุกคือเขียนให้สนุกครับ
ตอบเหมือนกำปั้นทุบกำปั้น แต่เป็นแบบนั้นจริงๆ

ตัวหนังสือที่เราพิมพ์ออกมามีอารมณ์
เหมือนเสียงดนตรีเวลาที่นักดนตรีเคาะคีย์เปียโน

ถ้าคนเขียนยิ้ม คนอ่านก็มีสิทธิ์ยิ้มตาม
ถ้าคนเขียนหัวเราะ คนอ่านก็มีสิทธิ์หัวเราะ
ถ้าคนเขียนน้ำตาซึม ก็มีลุ้นเหมือนกันว่าคนอ่านจะน้ำตาร่วง

แต่ถ้าคนเขียนเครียด เกร็ง จริงจัง
แล้วจะหวังให้คนอ่านสนุก แบบนี้ก็ยากเหมือนกันครับ

วิธีเขียนให้สนุกอีกวิธีคือ เขียนให้เพลินกับภาษา
สนุกกับการใช้ภาษา เพราะโลกการเขียนถูกสร้างขึ้นจากภาษา
ถ้าเราสนุกกับภาษา งานเขียนเราก็จะสนุก
และผู้อ่านก็น่าจะสนุกตาม เพราะเขาก็เข้าไปอยู่ในโลกใบนั้นเช่นกัน

ส่วนที่ว่าทำอย่างไรให้คนอ่านเข้าใจในสิ่งที่เราเขียน
ลองทดสอบด้วยวิธีการให้คนอื่นทดลองอ่านดูบ้างครับ
แล้วลองฟังความเห็นจากเขา ถ้าเขาไม่เข้าใจอะไรก็เพิ่มเติมลงไป
ถ้าตรงไหนที่เขาไม่เห็นภาพ ก็บรรยายเพิ่ม

การเขียนการอ่านคือการสื่อสาร
เขียนก็เหมือนพูดครับ
การเขียนที่ดีต้องมีการรับฟังอยู่ในนั้นด้วย"

ขอบคุณคุณเอ๋มากครับ

วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2552

หนังไทยที่ดูไม่เบื่อ

วันนี้แอบหลบงานมาอัพบล็อกเกี่ยวกะหนังในดวงใจ
ลองดูว่าเหมือนกันไหมน่ะครับ
เริ่มเลยๆ







- "รักออกแบบไม่ได้" อันนี้ยกให้เป็นอันดับแรกๆ เลย ชอบเรย์ เท่มาก หลายคนดูเรื่องนี้แล้วอยากเข้าไปเรียนที่ศิลปากร
- "กุุมภาพันธ์" ดูแล้วค่อยๆ อิน หนังรักที่ไม่ได้บอกว่ารักเลย
- "ณ ขณะรัก" นี่มันหนังหว่องกาไวเมืองไทยนี่น่า
- "2499" เรื่องแรกที่ไปดูกะพี่ชาย ปุ๊เม่งเท่ว่ะ
- "เมล์นรก" ฮาสาดดดด(น้ำ) ชอบมุขปวดขี้ โดนใจมากกก 55+
- "ฟ้าทะลายโจร" เรื่องนี้พาแม่ไปดู แม่ร้องไห้ แต่ผมชอบมากรู้สึกว่าเรื่องนี้เต็มไปด้วยงานศิลปะ เจ๋งๆๆ ไม่เชยแต่เรียกว่าตลาสสิค
- "ไซยา" หนังดีไม่จำเป็นต้องดัง สะใจ มันส์มาก
- "พลอย" หนังอะไร ให้ดูและให้คิด ผู้หญิงกับผู้ชาย มันไม่เหมือนกันจริงๆ
- "บุปฝาราตรี" โลเคชั่นเดียวทั้งเรื่อง แต่ครบรส (เออภาคแรกน่ะภาคอื่นๆ ไม่นับ)
- "มนต์รักทรานซิสเตอร์" บักเสี่ยวววววววว เอ๊ยย
- "มหาลัยเหมืองแร่" หนังอะไร ดูอีกทีดูตอนไหนก็ไม่เบื่อ ชอบพี่จอนมาก ดูแล้วอยากอยู่ใต้

จริงๆ ก็มีหลายเรื่องน่ะ แต่ที่มากๆ ก็ 10+1นี้แหละ เพิ่ม ไซยา มาเพราะประทับใจมาก(มากกว่าที่คิด)

ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่เข้ารอบก็
- "สายล่อฟ้า"
- "ตลก 69"
- "เด็กหอ"
- "เปนชู้กับผี"
- "happy birth day"
- "หมานคร"
- "หมากเตะ รีเทินร์"
- "ฝัน บ้า คาราโอเกะ"
- "โกลคลับ"

.....มีตรงๆ บ้างไหมฮะเนี่ย ^_________^

วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2552

MONTH

ทดไว้ในบล็อก (3)

ต่อไปนี้คือการพิมพ์แบบคิดอะไรได้พิมพ์เลย สดมากๆ

- อ้วนเกินไปแหละ
- เขิน
- งดกินเย็นดีไหมเนี่ย (หลัง 5 ทุ่มไม่กินแหละ โห..โหดเกิ๊น)
- จะลดได้ไหมเนี่ย
- ยังไม่ได้อัพบล็อกเกี่ยวกะลาวเลย
- เขียนยังไม่เสร็จด้วยครับ
- สิ้นเดือนซื้อบัตร moderndog
- ทุกสิ่งอย่างอยู่สิ้นเดือน 55+
- พอเพียง???
- ต้องตื่นเช้า แต่ยังนอนดึกตลอดเวลา
- เติมน้ำมันเกือบ 100 เม่งยังไม่เต็มถังเลย
- สิ้นเดือน หมวกกันน๊อคอันไหม
- ณ. ออฟฟิค เราเป็นผู้น้อย แต่ตัวใหญ่
- หาซื้อเสื้อใหม่แหละ ตัวเก่าใส่ไม่ได้ อ้วนเกิิน(ฮา)
- กดดันกะงาน
- แต่ก็มีที่ผ่อนคลาย
- ยังต้องปรับกันอีกเยอะ
- ซื้อการ์ตูนพลูโตมาอ่าน
- มันส์มากกกกกก ให้ตายซิ เล่มหน้าอวสาน
- นอย
- ตอนเย็นกินแต่คะน้าหมูกรอบ
- ไม่ออกไปไหนเลยช่วงนี้
- ดูดบุหรี่ดีไหมเนี่ย
- เปลือง ไม่เอาดีกว่า
- ออกไปข้างนอกกินข้าวเที่ยง
- ร้อนมากกกก
- ไม่รู้จะกินอะไร จบด้วยข้าวหมูแดงเหมือนเดิม
- กินมา 3 วัน
- กลับมานั่งนึกเรื่องงาน
- ว่าเป็นคนชอบงานแนวไหน
- นึกไม่ออก
- ทำงานมาหลายปี เพิ่งรู้สึกว่าใช้ wacom สบายกว่า เม้าส์
- ไม่ปวดมือ
- อยากเล่นบอล ไม่ได้เล่นนานแหละ
- อุตสาร์ได้เสื้อบอลทีมลาวมาแท้ๆ
- รู้สึกว่าตัวเองพูดน้อยลง แต่คิดไม่น้อยตามไปด้วย
- ชอบแบบนี้จัง
- วันนี้วันศกร์อีกครั้ง
- ใกล้สิ้นเดือนแหละ
- คริคริคริ
- กลับมาเป็นแบบนี้อีกแหละ
- พอทำงานทีไร ไม่ค่อยอยากเดินห้าง ดูหนังเลยจริงๆ
- หยุดทั้งทีขอนอนดูทีวีล่ะกัน
- หนังก็ไม่ค่อยได้ดูเลยยย
- อ่านบทความเกี่ยวกะเรื่อง BRUNO (บรูโน่)
- แล้วอยากดูมาก (แค่โปสเตอร์ก็ดูฮาแหละ)
- อยากดูเหมืองแร่อีก (รอบที่ล้านกว่าแหละ)
- นอยๆ แล้วดูหนังที่เพลินๆ ชอบๆ ก็ช่วยได้น่ะ
- วันก่อนกลับมาดูหนังเรื่อง สบายดี พลวงพระบาง
- คิดถึงลาวจัง (อินไปป่ะเนี่ย)
- คิดอะไรออกพอดี เด๋วไปทำมาให้ดู
- แค่นี้แหละฮะ
- เอาไว้อ่านบทต่อไปน่ะ
-
-
-
- ขอบคุณครับ

วันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2552

5 3 15



15th Anniversary Concert of MODERNDOG / 5.3.15

อันนี้คือหัวข้อของบทความนี้ moderndog จะมี concert แฟนพันธ์แท้และพันธ์ทางจะพลาดได้เยี่ยงไร...หลังจากเมื่อ 5 ปี ที่แล้วมี concert ครบรอบ 10 ปี "AT TEN" (ไม่ได้ไปเพราะไปเกาะช้าง)..มีโอกาสครั้งที่สองแบบนี้รับรองไม่พลาดแน่นอนรายละเอียดไปดูที่ เวบ http://www.totalreservation.com ที่ขายบัตรสำหรับ concert นี้
.
.
.
.แล้วเจอกัน

วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2552

รู้ไหม ไข้หวัดติดต่อทางไหน?


เพื่อนส่ง Forward mail มาให้ดู ...คลายเครียด (ฮาได้อีก)
ปล. ในเมล์บอกถ่ายที่ รพ. ศิริราช

ไอ แอม อะ ไท.....


ได้กะเค้าเหมือนกัน...สำหรับหนังสือ RAWMAT โดยที่ในเนื้อหาข้างในรวบรวมผลงาน 220 ชิ้นงานแรกส่วนคนอื่นๆ ตกไป(คนที่เหลือต้องรองานนิทรรศการทีเดียวล่ะกัน..รอด้วย ฮา) ในนี้มีของแถมเพียบ ได้อะไรบ้างไปถามคุณ Rutty เอาน่ะ 555+ ไม่อยากบอกเด๋วหาว่าเลียนแบบ:D

วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ทีมชาติไทยกับโลโก้อันใหม่



กัดได้เจ๊บจริงๆ เหมือนจะฮาแต่ฮาไม่ออก เห้อออออออ..อย่างว่าถ้าบ้านเรามีหมีแพนด้าตามท้องถนน มาขายใบไผ่ ก็คงไม่ขนาดนี้

*เครดิตจากเวบ http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S8200649/S8200649.html
ขอบคุณ....คุณ aomart และ คุณ tammaka12

ทดไว้ในบล็อก (2)

หลังจากหายๆ ไป..ยุ่งกะงาน วันนี้ขอมาอัพอะไรๆ สักหน่อยล่ะกัน

- หลังจากกลับจากลาว ตัวดำขึ้น เป็นรอยสีขาวของนาฬิกาเลย 55+
- คอก็เป็น ใส่เสื้อคอวี
- แต่คุ้ม มีความสุขมาก
- ตั้งใจจะกลับไปอีก ช่วงปีใหม่นี้แหละ
- เด๋วนี้รู้สึกแปลก กินข้าวอยากกินแต่ข้าวหมูแดง-ข้าวมันไก่ ประมาณเนี้ย
- หลังจากกลับจากลาวมานั่งนึก...ว่าบ้านเราเมืองเรา ทำไมมันวุ่นวายจัง
- เห็นไฟเยอะๆ ป้ายเยอะๆ แล้วเหนื่อย
- วันนี้เป็นวันสุข อิอิอิ
- อยากเล่นบอล
- เด๋วนี้รู้สึกว่าติดละครซิกคอม บ้านนี้มีรัก
- ชอบน้องบุ้งกี้
- คริคริคริคริ
- บรรยากาศช่วงนี้ไม่เบื่อ เจองานใหม่ เพื่อนใหม่ และความตั้งใจใหม่
- ถ้าอ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจ ก็ข้ามไปข้ออื่นได้เลยน่ะ
- ไม่ต้องอ่านสองรอบล่ะ
- ทำงานนั่งฟังแฟตทั้งวันเลย
- วันนี้ moderndog มาคุยเรื่องคอนเสิร์ตครบรอบ 15 ปี
- บัตรมีหลายราคา...แต่คงเลือกต่ำสุดอยู่ดี
- จะใกล้ไกลก็มันส์อยู่ดี ไงๆ ก็มองไม่เป็นอยู่ดี(ฮา)
- ..............
- มาทำงานแบบนี้ เลยอดเรียนต่อเลย
- ไว้คราวหน้าล่ะกัน
- หมดตูด สบายใจ...55+
- รู้สึกเด๋วนี้ถ่ายรูปไม่เหมือนเมื่อก่อน
- เมื่อก่อนถ่ายดีกว่านี้ ยิ่งถ่ายยิ่งแย่
- บอกแบบนี้คนมาอ่านจะจ้างไปถ่ายไหมเนี่ย
- บรรทัดข้างบน พูดเล่นน่ะครับ (ฮา)
- บอลเริ่มเปิดฤดูกาลแหละ อยากติดเคเบิ้ลว่ะ
- แล้วก็ไม่มีเวลาดู 55+
- เฮ้อ...บุ้งกี้ :D
- ...............
- พักบ่อยจัง
- ซื้อหนังสือสาวน้อยนักขายขนมปัง
- เมื่อก่อนก็อ่านที่ร้าน เพิ่งซื้อเก็บ
- อ่านแล้วก็เพลิน ยิ้มได้ทุกเรื่อง
- เลยนึกถงสมัยทำหนังสั้นตอนเรียนเลย
- โอเค ไว้คราวหน้าจะมาอัพใหม่ล่ะกัน
- ทำงานต่อแหละ
- รอเรื่องลาวอยู่ใช่ไหม
- ขอเขียนให้จบก่อนน่ะ
- บ๊าย
- บาย
-
-
- รัก

วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2552

แปลงร่าง !!!

ทำไงล่ะก็ (มึง) สนใจแต่พันธุ์เดียว







วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ของฟรีมีในโลก

เนื่องจากวันแม่ครับ (ดูไม่ออกให้กดที่รูปเพื่อขยายให้ใหญ่)


เครดิตจากคุณ ShioRamen ที่โพสไว้ในเวบพันทิบ
ที่มา http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A8181454/A8181454.html
บล็อกคุณShioRamen http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=shioramen

ขอบคุณครับ

วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2552

laos

I'm at new laos paris hotel..at laos It's good ...ok dee 55+ at here is nothing 555+

I'm ok .....don't worry
see u na ja

วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เล่าด้วยภาพ


Typolution (ชื่อเท่มาก ขอคารวะ)
เป็นผลงานของดีไซเนอร์ชาวแคนาดาชื่อ Olivier Beaudoin
งานนี้กวาดรางวัลจากเวทีใหญ่ๆ มาแล้วเพียบ

*เครดิต จากเวบ http://www.lonelytrees.net ของคุณทรงกลด บางยี่ขัน

ลองดู



อ่านได้ยังครับ :D

วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2552

พักบล็อกอัพงาน

......หลังจากพักงานมาอัพบล็อก มาได้เกือบ 4 เดือน ณ วันนี้ข้าพเจ้าจะไม่ได้มาอัพบล็อกแบบบ้าคลั่งอีกแล้ว..(จริงๆ ตอนนี้ติดไปแล้ว) ถ้าเห็นหายๆ ไป ไม่ต้องสงสัยน่ะครับ ผมวุ่นอยู่กับงานอยู่
.
.
.
.
.
ขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ สาวๆ ที่มาดู+มาอ่าน(หลังจากโดนบังคับให้มาอ่าน)
เร็วๆ นี้คงได้อ่านกันอีกฮะ ที่แน่ๆ เรื่องลาว มีต่อแน่นอนฮะ

วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Laos Town Story (ตะลอนลาว) ตอน เวียงจันทร์กันเอง

บทที่ 3 ตามระเบียบพัก



ไปลาวหลายวันก็คงต้องคิดถึงที่พัก หลังจากที่ได้ค้นๆ ใน internet ก็ได้สรุปมาดังนี้ โดยที่ราคาตั้งใจไว้คงไม่เกินคืนล่ะ 1,000 บาท แต่ก็ไม่อยากพักแบบต่ำกว่า 500 บาท เพราะมาครั้งนี้อยากมาสนุกๆ โดยที่ผ่อนครายสบายๆ อย่างน้อยๆ ก็ตอนนอน
1. City Inn Vientiane Hotel ตั้งอยู่ใกล้สนามบินของเวียงจันทน์ ช่วยให้ลูกค้าเดินทางไปสถานที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวก
2. Inter City Hotel โรงแรมแห่งนี้ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามด้วยของโบราณและงานศิลปะ ตกแต่งอย่างมีสไตล์ อยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติวัตไตเพียง 15 นาทีด้วยการขับรถ นอกจากนี้ ยังอยู่ในระยะที่เดินไปร้านอาหาร ตลาด วิหาร และร้านค้าในตัวเมืองได้ไม่ไกล
3. New Lao Paris Hotel กรุงเวียงจันทน์ แถววงเวียนน้ำพุ
โดยที่ทั้งหมดนั้นเตรียมมื้อเช้าให้อยู่แล้ว
หลังจากที่ได้ประเมินราคาต่างๆ แล้ว New Lao Paris Hotel น่าสนใจที่สุดเพราะจากที่ในเวบของเขาบอกว่าอยู่ในเมือง และใกล้วงเวียนน้ำพุ ซึ่งเป็นแหล่งที่เราจะต้องไปแถวนั้นอยู่ดี ในหนังสือบอกว่าแหล่งเที่ยวอยู่แถบนั้นเยอะ เลยกะวัดใจลองไปพักเผื่อสะดวกเดินไปเที่ยวแถวนั้นได้เลยราคาก็ไม่ต่างจาก 2 ที่แรกมากนัก ซึ่งราคาลองเข้าไปดูได้ตามชื่อโรงแรมเลยน่ะครับ เพราะราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง...ที่ผมพักราคาประมานคืนล่ะ 700 กว่าบาท

ทีนี้มาดูการข้ามชายแดนกัน ถ้าคุณมี Passport ….สะดวกมากที่สุด ติดต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้ที่สถานีรถไฟหนองคายได้เลย เพื่อ แสตมป์ Departure ได้หลายวันเลย เผื่อเที่ยวไกลๆ แต่ถ้าไม่มี Passport สามารถใช้ บัตรประชาชนเท่านั้นโดยให้ไปที่ศูนย์โอท๊อปหนองคาย(ที่ศาลหลักเมือง) นั้งรถสกายแล๊บ (สามล้อเครื่อง) ค่ารถ 20 บาท ค่าทำ Boarding Pass 40 บาท เป็นของราชการ แต่ถ้าที่อื่นเป็นของเอกชนราคาค่าบริการจะแพงกว่าประมาณ 160 บาท
หลักฐานที่ใช้ก็
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 1 ใบ
พร้อม รูปถ่าย ขนาด 1-2 นิ้ว - 2 ใบโดยที่ทำ Boarding Pass สามารถพักได้เฉพาะในเขตเวียงจันทร์ 3 วัน 2 คืน พอดีของผมเลย :D

ค่าเงินของที่นี่ก็ 1 บาทก็ประมาณ 240 กีบ ...จะรวยก็คราวนี้แหละ 55+

ไม่ว่าจะคุณยังอิสระแค่ไหน หรือเป็นคนที่เคร่งครัด เอาแต่ใจยังไง จะมากับทัวน์หรือไปแบบเรย์ แมคโนนัลด์ ก็ต้องทำตามระเบียบที่เขาวางไว้ให้อยู่เสมอในการทำ Passport พอๆ กับสังคมที่เราอยู่แหละ สุดท้ายเราก็ต้องกลับมาอยู่ในกรอบ แม้จะไม่ตลอดก็เถอะ....

วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เสื้อมือสอง-ลองซื้อดู

ได้ข่าวมาซะสักพักระยะ....ว่าวัดโบสถ์ดอนพรหม วัดที่ผมได้ไปบวชเมื่อช่วงต้นปี จะทำตลาดคนเดิน ว่าแล้วผมก็ได้ที่ทางจากทางวัดโดยมีญาติมาบอก..ว่าได้ที่เล็กๆ บล็อคหนึ่ง ก็เลยมาคิดว่าจะขายอะไรดี.........เสื้อผ้ามือสองนี่แหละ เจาะกลุ่มตลาดดีแท้(แถวนั้นกลุ่มเป้าหมายเป็นคนงาน คนท้องถิ่น ฐานะปานกลางลงไป)
แล้วเสื้อผ้าก็มาจากบ้านผมนี่แหละ ทั้งของพี่ชายและผมเอง ขายกันไม่เกรงใจใครตัวล่ะ 39 บาท!!!! แขนยาวเสื้อเชิ๊ตตัวล่ะ 59 บาท แต่ขอโทษทีเพ่ สภาพเสื้อดีโคตร เพราะบางตัวซื้อมา ยังไม่เคยใส่เลยด้วย แถมบางตัวเพิ่งใส่ไป 1-2 ครั้งเอง เวลาขายนี่แถบกัดฟัน เพราะเสื้อที่ซื้อมาที ก็ 150-200 กว่าบาทแหละ ขายแบบนี้ ขอต่อมีงอน....ลูกค้าดันขอต่ออีก..เลยขายไปเลย 2 ตัว 70.....3 ตัว 100 ใจป๋ามาก 555+
ก็อย่างว่าแหละฮะ มาขายครั้งนี้ก็ไม่ได้จะเอากำไรอะไร เพราะเราก็ไม่ได้ใส่อยู่แล้ว ดีกว่าทิ้งไว้เฉยๆ ลองมาขายดูสนุกๆ แต่ก็ไม่คิดว่าการขายของมันจะเหนื่อยอะไรขนาด ต้องคอยลุ้นให้ซื้อ..39 บาท ไม่ต้องคิดเยอะพี่ 5555+

อ๋องานนี้มีทุกวันศุกร์และเสาร์ ทางวัดจะทำเป็นธรรมเนียม ให้มีคนมาซื้อมีที่ขาย ช่วยๆ กันไป อย่างเพิ่งอี๊น่ะ มีหนังมากางให้ดู มีลิเกมาให้แลด้วยน้า บอกแล้วของเค้าดีจริงๆ

บรรยากาศวันศุกร์ และวันเสาร์ที่ผ่านมา....ยอดรายได้ ไม่บอกว่าได้กี่ตัวน่ะ ความลับของบริษัท (โหเสื้อมือสองมีบริษัทด้วย 55+)



ปล. ขอจบด้วยร้านขนมของพี่กิพ พี่เค้าขายขนมครกซีฟู้ด+ไข่นกกะทา ขอบอกขนมครกซีฟู้ดอร่อยมากกกกกกก โดยเฉพาะน้ำจิ้มรสเด็ดสูตรพี่เค้าเอง ดีกรีอาจารย์สอนทำขนมเลยน่ะ ไม่ใช่ย่อยๆ ขายหมดทุกวัน ไม่รู้เพราะผมแอบกินจนหมดหรือเปล่า :D