บทที่ 19 เวียงจันทร์ - อุดร
ออกมาหารถจัมโบ้ (สามล้อไทยนี่แหละแต่ใหญ่กว่า) ค่ารถจากโรงแรมไปท่ารถทัวน์ราคาประมาณ คนล่ะ 80 บาท(ถามจากพนักงานโรงแรม) แต่..พี่จัมโบ้ เรียกไป 120 บาท!! รู้ทันเลยต่อเหลือ 80 บาท ให้ได้ ต่อไปสักพักลดลงมาที่ 100 บาท จะไม่ยอมท่าเดียว กว่าจะยอมก็อ่ะน่ะ มีรถมาอีกคัน เรียกแค่ 80 บาท พี่จัมโบ้เดิมก็โวยวายรถอีกคันว่ามาแย่งลูกค้าได้ไง ไอ้คันใหม่ก็บอกว่า “เอ๊งเรียกแพงเอง” กลายเป็นเรื่องใหญ่โตกันอีกจะไปต่อยกันซะงั้น ไอ้เราก็เซ็งทันที จะไปหาคันอื่น ยังไม่ทันไรก็ตกลงกันได้ 80 บาท ไอ้เราก็อ่ะๆ โอเค ไม่อยากหาคันอื่นแหละ เลยนั่งมาที่ท่ารถ บรรยากาศบนท้องถนนต้องบอกว่ารถค่อนข้างเยอะกว่าที่เคยเห็น อย่างว่ามันเป็นวันทำงาน(วันจันทร์) รถออก 11 โมงถึงท่ารถ 10 โมงครึ่ง นั่งรอรถสักพัก ดูนู่นดูนี่ ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเท่าไร จะมีก็ประปรายเป็นพวกฝรั่งไปเลย ส่วนมากผู้โดยสารก็เป็นลาวนี่แหละ คนไทยน้อย….ถึงเวลาขึ้นรถ เนื่องจากไปจองมาตอนเช้าก่อน เลยได้ตั๋วหน้าสุด ฝั่งตรงข้ามมีสาววัยรุ่น 2 คน มานั่ง หน้าตาใช้ได้(เลยทีเดียว^________^) มาสองคนแต่เนื่องจากที่เต็มพอดีเหลือ 1 ที่พนักงานบนรถเลยเอาเก้าอี้พลาสติกกลมๆ มาให้นั่ง(ที่เสริม 55+) นี่ถ้าไม่ได้มากะก้อย ลุกให้นั่งเลยน่ะเนี่ย น้ำใจล้นเหลืออยู่แล้ว บนรถมีทีวีเปิดคาราโอเกะให้ดู อยู่ลาวดูคาราโอเกะลูกทุ่งไทย และดันเป็นเพลงของคนใต้บ้านเราอีกด้วย นั่งรถมาที่ด่านตรวจสะพานมิตรภาพ ลงจากรถเพื่อไปให้เค้าประทับตราลงใน passport แล้วเดินกลับมาขึ้นรถข้ามไปไทยต่อ ถึงค่านตรวจไทยอีกที ก็ลงไปประทับก่อน แต่นานหน่อยเพราต้องตรวจเข้าเมืองสำหรับคนลาวเข้าไทยแลัวขึนมาอีกทีสาวหน้ามล 2 คนนั้นก็ลงที่นี่ไม่ได้ไปต่อ หลังจากนั้นก็ตรงไปยาวๆ หลับไปตลอดทาง ตื่นมาอีกทีก็ถึงท่ารถอุดรแหละ ใช้เวลาไปประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆ ถามพนักงานว่า นานแบบนี้เลยหรอ พนักงานบอกว่าวันนี้ตรวจนาน และระหว่างทางตำรวจไทยตั้งด่านด้วยเลยขึ้นมาตรวจกระเป๋าทีล่ะคน ลงจากรถปับ โดนรุมทันที(พวกสามล้อ) เลยรีบเดินออกไปข้างนอกตั้งหลัก เดินไปเรื่อยๆ ด้วยความหิวโซ และต้องการกินอะไรก่อนขึ้นเครื่องด้วย
กินอิ่ม เดินทางต่อ หารถไปสนามบิน (ถามประชาสัมพันธ์เซ็ลทรัล เค้าบอกว่าต้องนั่งรถสามล้อไป พราะจะเข้าข้างในด้วย) เลยหารถสามล้อ (คล้ายกับจัมโบ้ที่ลาวเลย) ราคาตกที่ 150 บาท (โคตรแพง) แต่ระยะทางพอได้นั่งไปจริงๆ ก็แอบบไกลเหมือนกันน่ะ ตอนจะขึ้นรถดันลืมแว่นตาสุดเท่ ที่ร้านสุกี้ซะอย่างนั้น เลยต้องวิ่งกลับไปเอา ทางร้านเก็บไว้ให้ (ขอบคุณคร้าบบบบ)




ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น