เหลือบไปดูเวลาที่มุมจอของคอม....วันนี้ วันที่ 21 พฤศจิกายน เป็นวันเกิดของ"หงุดหงิด" หมาตัวเมียหน้าดำพันธ์ปั๊กที่กลายสถานะจากสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อน และจนภายในไม่กี่เดือนหลังจากที่ได้เลี้ยง "หงุดหงิด" มันก็เป็นลูกสาวแบบไม่ถูกกฎหมายโดยความเต็มใจของ"พวกเรา" ทุกวันๆ เรานอนด้วยกัน กินพร้อมๆ กันจนแทบจะไม่รู้สึกว่า"หงุดหงิด"มันคือหมา และคงคิดว่า"หงุดหงิด"ก็คิดเหมือนกันว่า"พวกเรา"คงไม่ใช่เจ้านายของมัน... :)))))
จนกระทั่ง"หงุดหงิด"อยู่กับ"พวกเรา"ได้สักประมาณเกือบจะครบสองขวบ คำว่า"พวกเรา" ก็กลายเป็น"เธอกับผม" โดยที่ไม่มีกาวใจอันไหนมาเชื่อมเธอกับผมได้สนิทเหมือนที่เคยสนิทเป็นเนื้อเดียวกันมาก่อนหน้านี้ ผมต้องออกจากบ้านของ"เรา"ไป โดยที่บ้านหลังนั้นก็มีแต่เธอและ"หงุดหงิด"....ซึ่งจะมีทุกๆ วันเสาร์ วันที่ผมได้รับอนุญาติจากเธอให้ไปหา"หงุดหงิด"ได้ โดยที่เธอไม่ได้อยู่บ้าน เลยทำให้ทุกๆ อาทิตย์เป็นวันแห่งชาติ วันที่ได้เจอ"หงุดหงิด" วันที่ทำให้ผมหายเหนื่อยจากงานที่สะสมมาตลอดห้าวัน เรียก"หงุดหงิด"ได้เต็มปากเลยว่า"หงุดหงิด"คือ"ตัวหายเหนื่อย"ของผม...หลังจากนั้นประมาณไม่กี่อาทิตย์ที่ได้ไปหา.....เธอก็ขอให้ผมเลิกมาหา"หงุดหงิด"อีก เพราะการที่ผมไปหา"หงุดหงิด"มันก็ทำให้มีสิ่งค้างคาใจในตัวเธอให้ว้าวุ่นไม่สงบซะที
เคยคิดว่าจะขอ"หงุดหงิด"มาเลี้ยงเองที่บ้าน แต่คิดไปคิดว่า"หงุดหงิด"ตั้งแต่เล็กๆ ไม่กี่เดือนก็อยู่บ้าน"เธอ"มาตลอด ผมไม่อยากที่จะเอามันมาเลี้ยงในที่ๆ มันไม่คุ้น บ้านของ"หงุดหงิด"ก็คิดบ้านของ"เธอ" มันอยู่ในที่ที่เคยชินแล้ว แถมอยู่ที่นั่น ผมมั่นใจว่า "เธอ"จะดูแล"หงุดหงิด"ได้เป็นอย่างดีมากกว่าที่เลี้ยงมันแน่ๆ
ผ่านมาหลังจากที่ไม่ได้เจอถึงวันนี้ หนึ่งปี(ค่อนข้างพอดิบพอดี) ปีที่แล้วตอน"หงุดหงิด"สองขวบ ผมได้เคยพูดเอาไว้ว่า"สัญญา สัญญาว่าจะทำให้เราได้มาเจอกันอีกเหมือนเดิม" แต่ถึงตอนนี้ ดูเหมือนสัญญามันกลายเป็นแค่ลมปากไปแล้ว เวลาที่ผ่านมา ผมไม่ได้สามารถทำให้มันเป็นจริงขึ้นมาเลย
ปีที่แล้ว ตอน"หงุดหงิด"สองขวบผมได้ทำเสื้อยืดลายของ"หงุดหงิด"ไปขายแล้วเอากำไรทั้งหมดจากการขายครั้งนั้นไปทำบุญซื้ออาหารให้สุนัขเร่ร่อน เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จมากมาย จนเพื่อนคนหนึ่งพูดมา "เนี่ยเด๋วนี้เห็นหมาปั๊ก ก็จะเรียกว่า นี่ไงๆ หงุดหงิดๆ"
ทุกวันนี้พูดแบบไม่คิดเลยว่าไม่มีวันไหนที่ไม่คิดถึง"หงุดหงิด"เลย ทุกวัน ทุกวันจริงๆ เห็นอะไรเกี่ยวกับหมาปั๊ก ต้องหยุดดู หยุดซื้อเก็บไว้ตลอด จนแบบว่าคนอื่นๆ ก็ซื้อมาฝากบ้าง เพื่อนก็ถามว่ามึงดูเว่อร์เกินไปไหมกับหมาแค่ 1 ตัว ซื้อมาเลี้ยงใหม่ซิจะได้จบๆ......ไม่เว่อร์เลย ถ้าคิดว่ามันเหมือนลูกสาวจริงๆ ไม่กล้าเลี้ยงตัวอื่นกลัวใจเราจะลืม ลืม"หงุดหงิด"
จากความคิดถึงเป็นเริ่มเป็นความกลัว กลัวว่า"หงุดหงิด"จะลืมผมไปในที่สุด กลัวมันจะจำผมไม่ได้ แต่ที่กลัวมากที่สุด กลัวใจตัวเอง กลัวว่าสักวันผมจะลืมคิดถึงว่า"หงุดหงิด"เป็นลูกสาว กลัวที่ตัวเราเองต่างหากที่จะลืมซะเอง กลัวจะลงเอยแบบนี้ กลัวที่สุด
ปีนี้เป็นปีที่สามของ"หงุดหงิด"แล้ว อ่านในหนังสือว่ากันว่า หมา 3 ขวบ เท่ากับคนอายุ 28 ปี ตอนนี้"หงุดหงิด"ก็โตเป็นสาวเต็มตัวแล้ว ไม่รู้ป่านนี้"เธอ"ผู้เป็นแม่ของ"หงุดหงิด" จะเริ่มให้ลูกสาวมีคู่ครองแล้วหรือยัง...
มาถึงตอนนี้ผมไม่รู้จะพูดคำว่าอะไรนอกจากคำว่า"คิดถึง"
ครั้งหนึ่งเวลาพา"หงุดหงิด"ไปหาแม่ผม พามันไปเล่นที่อื่นๆ แล้วแม่ผมเห็นผมนอนคลุกกับมัน แม่เคยถามผมว่า "รักมันไหม" ผมตอบไปว่า "รักซิ เหมือนลูกอ่ะ รักมันจะตาย"…แม่ผมบอกว่า "เออ ก็เหมือนแม่น่ะแหละ เอ็งก็เหมือนหงุดหงิด"
มาถึงตอนท้ายของบทความนี้ ดูเหมือนเนื้อหาที่ก่อนหน้านี้ตั้งใจว่าจะเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับ"หงุดหงิด"ให้มากกว่านี้ แต่พอเวลาได้เขียนจริงๆ รู้สึกว่าเป็นการเวิ่นเว้อของผมสักมากกว่าที่จะเป็นเรื่องของ"หงุดหงิด"
"หงุดหงิด ปีหนึ่งแล้วที่เราไม่ได้เจอกัน คิดถึงมากๆ อยากฟัดอยากกอดอยากเล่นด้วยกันเหมือนที่ผ่านๆ มา พ่อหวังว่าสักวัน หงุดหงิดกับพ่อคงได้มีโอกาสเจอกันเล่นด้วยนอนด้วยกันอีก รักแกมากๆ เลยน่ะไอ้หมาหน้าดำ ถึงจะหน้าดำแกก็น่ารักน่ะ"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น